ซื้อหุ้นต้องระวัง บริษัทที่มีพฤติกรรม แบบนี้ (เหตุเกิดที่ตลาดหุ้นไทย)
1023

ซื้อหุ้นต้องระวัง บริษัทที่มีพฤติกรรม แบบนี้ (เหตุเกิดที่ตลาดหุ้นไทย)

จากกระทู้ http://pantip.com/topic/35145691

เหตุเกิดที่ตลาดหุ้นไทย
ใครคิดจะเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย ต้องระวังตัวให้ดี อย่าคิดว่าอยากรวยแล้วเข้ามาเล่นหุ้น คุณอาจคิดผิด ถ้าคุณรู้ว่าความจริงบริษัทในตลาดหุ้นไทยบางแห่งมีผู้บริหารมีพฤติกรรมแบบนี้ และหน่วยงานดูแลก็ช่วยคุณไม่ได้
          สืบเนื่องจากที่มีบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งที่ผู้บริหารมีพฤติกรรม เล่นเกมการเงิน เอาแต่เพิ่มทุนจากรายย่อยและบริหารการเงินของบริษัทในลักษณะส่อไปในทางทุจริต เช่น นำเงินไปซื้อที่ดินในราคาแพงถึง2,993ล้านบาท แจ้งตลาดว่าเป็นที่ดิน507-1-16.8 ไร่ที่จังหวัดพังงา แต่มีหลักฐานการจดทะเบียน 70-3-44ไร่ในราคา2,859.4ล้านบาท(ราคาประเมินกรมที่ดินเพียง 14.64ล้านบาท)จากกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวพันกัน ที่ดินเป็นเหมืองร้าง สภาพเป็นบ่อขนาดใหญ่ ยากต่อการพัฒนา ราคาตลาดประมาณ 240 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้ซื้อที่ดินที่จังหวัดเดียวกัน ไม่น้อยกว่า31-0-25.5ไร่ในราคา943.36ล้านบาทมาแล้ว แต่ไม่มีการพัฒนาใดๆ เร็วๆนี้ยังขายหุ้น บมจ.แห่งหนึ่งที่บริษัทซื้อมาในราคาหุ้นละ 1.6 บาท จำนวน 250 ล้านหุ้น ขายไปในราคาเพียง 1.3 บาทขาดทุนไป 75 ล้านบาท ไม่นับต้องเสียดอกเบี้ยจากเงินกู้ที่กู้มาซื้อ บมจ.นี้ และยังมีการขาย บมจ.นอกตลาดอีกแห่งหนึ่งในราคาที่ขาดทุนถึง 119 ล้านบาท มีวางมัดจำจะซื้อที่ดินแถวพหลโยธิน 350 ล้านบาท มีแนวโน้มจะยอมให้ถูกริบเงินมัดจำจำนวนนี้ และยังมีพฤติกรรมทำนองนี้อีกหลายรายการ ทำแบบนี้หมายความว่าไง ไม่ต้องคนฉลาดก็เข้าใจ
เงินที่บริษัทนี้นำไปใช้มาจากการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นรายย่อยปกติ และมีการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้กลุ่มบุคคลในราคาต่ำกว่าตลาดเพื่อกดราคาหุ้นและครอบงำบริษัท ก่อนประชุมผู้ถือหุ้น จนผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่สามารถทำอะไรได้ จนราคาหุ้นจาก 4 บาทกว่า เหลือ 9 สตางค์ โดยที่หน่วยงานรัฐไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือ เมื่อเร็วๆนี้บริษัทนี้ยังเปิดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นหวังออกTSRและเพิ่มทุน แต่รายย่อยเริ่มรวมตัวกันได้ ผู้บริหารชุดเดิมจึงได้ทุจริตแจ้งข้อมูลเท็จว่าองค์ประชุมไม่ครบหนีการลงมติ อ้างว่าผู้ถือหุ้นมาประชุมไม่ถึงหนึ่งในสามของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด แต่ความจริงผู้ถือหุ้นมาเกินหนึ่งในสามจำนวนมาก ด้วยเหตุการณ์เหล่านี้จึงมีผู้ถือหุ้นรายย่อยร้องเรียนพฤติกรรมของผู้บริหารของบริษัทนี้ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนมากแต่บริษัทนี้โดยผู้บริหารกลุ่มเดิม ก็ยังคงอยู่คู่กับตลาดตลอดมา นอกจากนี้คนกลุ่มนี้ยังไปมีพฤติกรรมลักษณะเดียวกันในบริษัทอื่นๆในตลาดอีกหลายแห่ง ซึ่งคนในวงการต่างทราบกันดีว่าใครเป็นใคร นับเป็นความล้มเหลวในตลาดทุนไทยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
          เมื่อหน่วยงานรัฐไม่ช่วย ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่สุดทนจึงต้องรวมตัวกันต่อต้านผู้บริหารที่มีพฤติกรรมดังกล่าว จนมาถึงเมื่อวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อ ปลาย เมษายน ศกนี้ ประธานกรรมการบริษัทนี้ไม่มีเพราะลาออกหลังประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพราะโดนจับได้ว่าทุจริตองค์ประชุมและ รองประธานก็ไม่มีอยู่แล้ว ผู้บริหารชุดเดิมได้ส่งกรรมการที่ไม่มีตำแหน่งจะเป็นประธานที่ประชุมผู้ถือหุ้นเข้าร่วม รายย่อยจึงได้เรียกร้องให้มีการเลือกประธานที่ประชุมจากรายย่อยแข่งกับกรรมการเดิม และผลปรากฏว่ารายย่อยชนะด้วยคะแนน 243 เสียง ต่อ 59 จึงดำเนินการประชุม แต่กรรมการที่ลงแข่งขันไม่ยอมรับมติที่ประชุมกล่าวปิดประชุมข้างห้องแล้วออกจากห้องประชุมไป ผู้ถือหุ้นรายย่อยโดยประธานจากรายย่อย จึงดำเนินการประชุมต่อมาจนครบวาระการประชุมตามที่ได้แจ้งไว้ในหนังสือเชิญประชุมและเพิ่มวาระปลดกรรมการเดิมรายบุคคลทั้งชุดและตั้งกรรมการใหม่อีก 8 คน ซึ่งต้องถือว่ากรรมการชุดเดิมทุกคนไม่อยู่ในฐานะกรรมการอีกต่อไปนับตั้งแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติ และกรรมการใหม่มีผลเป็นกรรมการในวันเดียวกัน เพียงแต่ยังมิได้จดทะเบียนแก้ไขต่อกรมพัฒนาธุรกิจเท่านั้น
        คณะกรรมการชุดใหม่ไปแจ้งเรื่องว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติให้เป็นกรรมการแล้วตามกฎหมายถือว่าเป็นกรรมการแล้ว แต่หน่วยงานดูแลกลับบอกว่ายังต้องให้ความสำคัญกับกรรมการเดิมก่อน จนกว่ากระทรวงพาณิชย์จะจดทะเบียนให้เป็นกรรมการ ไม่มีการพิจารณาพฤติกรรมของผู้บริหารเลย
        เมื่อต้น พฤษภาคม 2559 กรรมการชุดใหม่ได้ยื่นขอจดทะเบียนแก้ไขกรรมการต่อกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์แล้ว ระหว่างนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาของนายทะเบียน ซึ่งข่าวว่างานนี้ผู้บริหารชุดเดิม ทุ่มพลังเต็มที่เพื่อขวางการจดทะเบียนของรายย่อยครั้งนี้  มีผู้สันทัดกรณีให้ความเห็นว่าเป็นการยากที่รายย่อยจะได้รับการจดทะเบียนเพราะหน่วยงานรัฐมักกลัวการเปลี่ยนแปลง การทำแบบเดิมที่ผ่านมาง่ายกว่าการจะมาพิจารณาเรื่องความเป็นธรรมให้รายย่อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อน
        นี่คือความจริงที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทย ใครคิดว่าจะเข้ามารวย โปรดคิดให้ดี อย่ามองโลกสวยเกินไป นอกจากเวทีนี้ไม่มีพี่พี่เลี้ยงแล้วกรรมการตัดสิน ก็อาจไม่ช่วยคุณแม้ว่าคุณจะถูกปล้นเงินอย่างชัดๆก็ตาม

นี่คือความจริงที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆในตลาดหุ้นไทย                                                                   
           
แก้ไขโดยเพิ่มรูปข่าวหนังสือพิมพ์ ที่ได้มาจากเพจ "หุ้น Polar" ตามลิ้งค์ https://web.facebook.com/หุ้น-Polar-1622274168000527/




INSURANCETHAI.NET
Line+