9 การตัดสินใจที่จะต้องขอบคุณตัวเองไปตลอดชีวิต
105

9 การตัดสินใจที่จะต้องขอบคุณตัวเองไปตลอดชีวิต

ชีวิตของคนเราจะเปลี่ยน เท่ากับจำนวนครั้งที่เรา”ตัดสินใจ”ที่จะเปลี่ยน
ความจริงเท่านั้นที่จะทำให้ความจริงดีขึ้น …

ครั้งแรก เลือกที่จะไม่เทอนาคตรวมกับอดีต
เรียนจบอะไรมาก็เรื่องนึง ถ้าไม่ใช่ก็เปลี่ยนได้”เสมอ”
ถ้าเราพบว่าชีวิตกำลังโดนถ่วงด้วยสิ่งที่บังเอิญเลือกเข้่ามา
แต่กลับไม่ได้จำเป็นต่ออนาคต
FORMAT ชีวิตใหม่เป็นสิ่งที่ควรจะทำที่สุด

ครั้งที่ 2 เลือกที่จะทำโดยไร้ข้ออ้าง
ทำมึนก้มหน้าก้มตาทำไป เพราะไม่รู้ว่าโดนส่งมาในเขตทะเลทราย
ได้ลงเขตปราบเซียน ตั้งแต่ปีแรกที่ทำงาน
วันนี้จึงรู้แล้วว่าความกดดันที่เคยบีบเราจนเกือบตาย
ถ้าผ่านมันมาได้ มันจะทำอะไรเราไม่ได้อีกแล้ว

ครั้งที่ 3 เลือกที่จะรับหน้าที่โดยที่ยังไม่ถึงอายุ
ถ้าเราจนถึงเวลาที่คนอื่นคิดว่าเราเหมาะสม นั่นก็ช้าไปแล้ว
มันแสดงให้เห็นว่า อายุกับความสามารถนั้นเป็นอิสระต่อกัน
คนส่วนมากจะเป็นยังไง นั่นมันก็เรื่องของคนส่วนมาก

ครั้งที่ 4 เลือกหายใจด้วยตัวเองเท่านั้น
ยอมทิ้งบุญเก่าของคนอื่น มาควบคุมชีวิตตัวเอง 100%
เสียงที่ออกมาจากปอดของตัวเอง
ถึงจะพูดเบา ๆ แต่ก็ไม่มีใครกล้าสงสัย
จงเลือกสิ่งที่จะทำให้เหนื่อยแค่ช่วงแรก
แต่ไม่ต้องอึดอัดไปตลอดชีวิต

ครั้งที่ 5 เลือกทำก่อนจะถึงเวลาที่ต้องทำ
เริ่มเขียนหนังสือก่อนที่จะมาเสนอสนพ. 8 เดือน
และได้รับการตอบรับ ในขณะที่บางคนเพิ่งเริ่มจะคิดคอนเซปต์
ถ้าเราจะต้องทำมันอยู่ดี …
“ขณะนี้”เป็นเวลาที่ควรจะเริ่มต้นมากที่สุด

ครั้งที่ 6 เลือกที่จะวิ่งเข้าไปล่าพญาช้างด้วยตัวเปล่า
ณ ตอนนั้นไร้คอนเน็คชั่น ไร้การสนับสนุน ไม่มีใครเห็นด้วย
แต่นั่นไม่ได้แปลว่า มันจะไม่สำเร็จ บางทีลูกค้าที่ดูสูงเกินเอื้อมเค้าก็รอเราอยู่
ทำให้เข้าใจว่าในวันที่คนอื่นไม่พร้อมจะไปกับเรา
ต้องใช้ความเชื่่อ 300% มาทดแทน
และถ้าได้ผ่านสิ่งที่ยากที่่สุดมาแล้ว ทุกอย่างก็เป็นเรื่องง่าย

ครั้งที่ 7 เลือกจะใช้ชีวิต 20%
ทุ่มเททุกอย่างไปที่ 20% ที่สำคัญ”เท่านั้น”
เป็นการทุบหม้อข้าวทิ้งในเวลาที่เหมาะสม
ทำให้ชีวิตอุดมสมบูรณ์และสบายขึ้นเยอะ
สองมือของเราต้องว่างพอที่จะรับของที่ใหญ่กว่า

ครั้งที่ 8 ฝืนอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเล่มแรก
ด้วยคำแนะนำของอาจารย์ท่านนึง
แต่ดันไปเลือกหนังสือเล่มที่โคตรหนา( 300กว่าหน้า)มาอ่าน
ถึงอย่างนั้นก็เป็นการ breakthrough สำคัญที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่ง
สิ่งที่เรา”อยากทำแต่ไม่กล้าทำสักที”
นั่นละครับ ขีดจำกัดถัดไปที่เราต้องปลดล๊อค

ครั้งที่ 9 เลือกที่จะเลิกวิ่งตามทุกอย่างแต่จะดึงดูดมันเข้ามาแทน
ถ้าเราอยากได้อะไร วิธีไล่ตามเป็นวิธีที่แย่ที่สุดที่จะได้มันมา
จงขยับตัวแค่เพื่อให้เค้าสังเกตเห็น ไม่่ใช่วิ่งไล่จนดูไร้ค่า
เอาความพยายามไปใช้พัฒนาตัวเองให้เป็นแม่เหล็กชั้นยอดดีกว่า
ขอให้ทุกคนได้เปลี่ยนไปเป็นคนที่ตัวเองชอบมากขึ้นในทุก ๆ ปีครับ

#ทำไมไม่บอกกู … หมอกิม

Re: 9 การตัดสินใจที่จะต้องขอบคุณตัวเองไปตลอดชีวิต
105

Re: 9 การตัดสินใจที่จะต้องขอบคุณตัวเองไปตลอดชีวิต

อย่าแสนดี แต่น่าเบื่อ …

"ครั้งที่ 9 เลือกที่จะเลิกวิ่งตามทุกอย่าง
แต่จะดึงดูดมันเข้ามาแทน
ถ้าเราอยากได้อะไร วิธีไล่ตามเป็นวิธีที่แย่ที่สุดที่จะได้มันมา
จงขยับตัวแค่เพื่อให้เค้าสังเกตเห็น ไม่่ใช่วิ่งไล่จนดูไร้ค่า
เอาความพยายามไปใช้พัฒนาตัวเอง
ให้เป็นแม่เหล็กชั้นยอดดีกว่า"

ผมขอยกตัวอย่างด้วยประโยคนี้ครับ "ใครรักมากกว่าแพ้"
ประโยคสุดดราม่าที่น่าน้อยใจว่า"คนดีไม่มีที่อยู่"
จริง ๆ แล้วประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่"
ความรู้สึกของใครมากกว่ากัน"หรอกครับ
แต่พอดีว่าความรู้สึกที่เอ่อล้น
มันจะทำให้เรายอมทุกอย่าง คอยแสตนบายตอบไลน์ทุกนาที
อยากไปไหนบอก อยากกินเค้กจัดมาให้เป็นปอนด์

ทีนี้ถ้าฝ่ายที่ได้รับการเทคแคร์แบบจัดเต็ม
ไม่ได้รู้สึกว่าคน ๆ นี้หายากขึ้นมาเมื่อไหร่
ความซวยจะบังเกิดครับ ...
เพราะคนเรานั้น"ชอบความท้าทาย"(มีความเสี่ยงนิด ๆ)
และเราจะหันหลังให้กับสิ่งที่คาดเดาได้ 100%


ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่า ทุกเสาร์อาทิตย์ก็รอไปเที่ยวกับเรา
การเทคแคร์ของเราจึงเป็นสิ่งที่เหลือเฟือ และไม่ได้หายาก
ในเมื่อไม่ได้หายาก ก็ไม่จำเป็นต้องเสียดาย
"ความพอใจต้องควบคู่กับความตื่นเต้นนิด ๆ "

เหมือนดั่งที่ตา robert greene บอกว่า
"จงใช้ absence เพื่อเพิ่มความเคารพ(หรือน่าสนใจ)"
absence ก็คือการไม่ปรากฎตัว
เราจะตื่นเต้นเมื่อเห็นปลาโลมามากกว่าหมาชิห์สุอยู่แล้ว
เพราะเราไม่ค่อยได้เห็นมัน ดังนั้นมันจึง"น่าสนใจ"

การวิ่งไล่ตามคือการปรากฎตัวตลอดเวลา
แถมถ้ายังถูกคาดเดาได้แม่นเป๊ะ ๆ อีก
มันจะไปน่าสนใจอะไรล่ะครับ?

เราจะดีแค่ไหนมันก็เรื่องนึงครับ
เพราะคนเราชอบสิ่งที่กระตุ้นให้เราอยากรู้อยากเห็น
สุดท้ายความดีคือส่วนหนึ่งของความชอบ
แต่ต้องบวกความน่าสนใจเข้าไปด้วยครับ

โดยสรุปก็คือ "อย่าเป็นของตาย" ของตายคือสิ่งที่ไม่มีการเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
ถึงจะดีดั่งเทพบุตร แต่มันน่าเบื่อครับ ...

ดังนั้นลองเปลี่ยนเวย์สักนิด ลองมาพัฒนาตัวเองแบบเกินคาด
ทั้งหน้าที่การงาน,รูปร่างหน้าตา,ความคิด
มันทำให้เราเริ่มเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น เพราะ"เกินคาด"
แถมการปรับปรุงตัวก็ทำให้เรา"ดีขึ้น"ไปในตัว
เมื่อดีขึ้นได้บวกกับน่าสนใจ
มันก็น่าดึงดูด"มาก ๆ"ยังไงล่ะครับ
หยุดวิ่งไล่ตาม เอาเวลามาอัพเกรดตัวเองครับ
ชีวิตจะดีขึ้นเยอะ"ทุกด้าน"ครับ

ปล.ความดียังไม่ใช่ความรักครับ
ถ้ามันอันเดียวกัน คงใช้คำเดียวกันไปแล้ว

‪#‎ทำไมไม่บอกกู‬ ...หมอกิม



INSURANCETHAI.NET
Line+