บริษัท Global advertising เตือนเภัยจะทำให้คุณเป็นหนี้
219

บริษัท Global advertising เตือนเภัยจะทำให้คุณเป็นหนี้

บริษัท Global advertising เตือนเภัยจะทำให้คุณเป็นหนี้

วันนี้ได้เห็นเรื่องราวหนึ่งบนอินเตอร์เน็ต คิดว่าน่าสนใจ
================================================
เตือนเอาไว้ภัยสังคมทาง Internet ... บริษัท Global advertising จะทำให้คุณเป็นหนี้

Global advertising เป็นบริษัท ที่ขายอาหารเสริม ยี่ห้อ Herbalife (เอ่อ ผมไม่ได้ว่า Herbalife ไม่ดีนะ แต่วิธีการทำงานของ global advertising มันเข้าข่ายหลอกลวง) ผมจะมาบอกประสบการณ์ที่เคยโดนมากับตัวเองให้รู้กันเพื่อให้เป็นข้อมูลก่อนจะ ตัดสินใจเข้าทำงานกับบริษัทนี้ เค้าจะให้ข้อมูลที่สำคัญกับเราไม่หมดนะ ย้ำให้ข้อมูลไม่หมด ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดพอมาบอกอีกทีก็กลับใจลำบากแล้วเพราะเสียหายอย่างมาก ถ้าจะเลิกก็ยากอีกเนื่องจากนำเงินมาลงทุนเยอะแล้ว (บางคนต้องลาออกจากงาน หรือพักการเรียน เพราะคนในองค์กรแนะนำ) จึงได้นำข้อมูลที่เค้าปิดบังไว้มาบอกกันก่อน แต่ก็อาจเป็นงานที่เหมาะกับหลายๆคนนะ ...ไม่แน่

หัวหน้า องค์กรนี้ เป็นระดับ President team เป็นชาวต่างชาติ ชื่อไมเคิล (เฮงซวย) ชอบดูถูกคนอื่นอย่างมาก อายุ 24 ปี (ที่ปี ค.ศ. 2008) ไม่ใช่ไมเคิลโอจอห์นสันนะอย่าเข้าใจผิด และมีทีมงานระดับหัวหน้าอีกหลายคน เช่น ซี นักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย (บอกว่าปีสุดท้ายมาหลายปีแล้ว), หญิง, บอล, โกศล และอีกหลายคน ซึ่งแต่ละคน ตอแ...ล่ เก่งมากๆ

โดยที่เค้าจะ มีโฆษณา อยู่บน Website ......... รับสมัครงาน ส่วนอีกแบบลงว่าลดน้ำหนักอันนี้สำหรับลูกค้า เมื่อเข้าไปกรอกข้อมูลเค้าจะบอกว่าเป็นการทำงาน Internet (แต่จริงๆ ก็คืองานขายตรง ซึ่งไม่ยอมบอกว่าเป็นงานขายตรง จะบอกว่าเป็นการทำงาน Internet เท่านั้น) แล้วนัดให้เราเข้าไปอบรม บอกว่าทำงานเพียงวันละ 2 ชม./วัน (เราเชื่อที่เค้าพูดว่าเป็นอย่างนั้นจริง คงไม่โกหกกันหรอก ไม่น่าจะกระทบกับการเรียน และการทำงานมากนัก) ก็ตัดสินใจเข้าไปฟัง

ใน การอบรมก็ไม่มีอะไร เป็นเพียงการแนะนำสินค้าของเค้า และโฆษณาว่ามีใครเกี่ยวข้องกับเค้าบ้างเพื่อให้น่าเชื่อถือ แต่จริงๆ ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนักในเรื่องการขายของ ของแต่ละคน และมีการให้ลูกทีมขึ้นเวทีมาบอกว่ามีรายได้เท่าไหร่ (ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ ถ้าจริงไม่รู้มีรายจ่ายสำหรับงานนี้ต่อเดือนเท่าไหร่ไม่ยอมบอก) และไม่บอกเรื่องค่าใช้จ่ายต่อเดือนด้วยว่าเท่าไรมีอะไรบ้าง (ขั้นต่ำ 20,000 บาทต่อเดือนที่ต้องจ่ายให้บริษัทนี้) จากนั้นจะนัดให้ไปอบรมอีกครั้งบอกว่าเป็นการอบรมที่สำคัญมากๆๆๆๆ ถ้าใครจะทำงานนี้ต้องไป ถ้าไม่ไปก็ทำงานนี้ไม่ได้ (แต่ข้อมูลมันก็ไม่ได้แตกต่างจากที่อบรมไปเมื่อกี้เท่าไหร่) ต้องเสียค่าใช้จ่าย 500 บาท มีการโกหกด้วยว่าการอบรมครั้งนี้จะจัดที่ประเทศไทยในวันอาทิตย์นี้ ถ้าพลาดก็ไม่รู้ว่าจะมาจัดในประเทศไทยอีกเมื่อไหร่ (แต่เค้าก็จัดทุกวันอาทิตย์นั้นแหละ แล้วงานอบรมของคนใหม่ที่บริษัทนี้ก็ไม่เคยจัดต่างประเทศสักที) เมื่อผู้สนใจที่อยากทำงานได้ยินเช่นนี้ก็เกรงว่าจะเสียโอกาสในการทำงาน จึงต้องรีบตัดสินใจโดยไม่มีเวลาคิดให้รอบครอบ

เมื่อเข้าไป อบรมจะถูก การสร้างภาพ และโน้มน้าวให้เห็นว่าทำได้ง่ายเพียงแค่เปิดดูรายชื่อใน E-mail แล้วโทรหาลูกค้า และส่งของไปให้เท่านั้น ใช้เวลาแค่ 2 ชม.ต่อวันก็พอ (แต่จริงๆ แล้ว มันมีอะไรซ่อนไว้อีกมากๆๆ ที่ไม่ได้บอกเรา) จากนั้นทาง Upline ก็จะชวนให้เราสมัคร เสียค่าสมัครพันกว่าบาท แต่ไม่บอกว่าต้องเสียค่ารายปีอีกประมาณสองพันกว่าบาท หลังจากนั้นก็ให้เราเลือกว่าจะทำเป็น Supervisor (Sup) หรือ Distributor (Dis) อันนี้เหมือนว่าจะเลือกได้นะแ ต่จริงๆ ไม่มีทางเลือกหรอก ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะว่าถึงแม้จะเลือกทำเป็น Distributor แต่พอทำไปสักพักก็จะถูกบังคับทั้งทางตรง และทางอ้อม เช่น ไม่ให้รายชื่อลูกค้า, กดดันด้านต่างๆ เป็นต้น ทำให้เราเริ่มขายของไม่ค่อยได้ก็จำใจต้องทำคุณสมบัติเป็น Sup ซึ่งการทำคุณสมบัติที่ว่านี้จะต้องทำคะแนน 4,000 VP เป็นเงินมากกว่า 130,000 บาท หรือ 2,500 VP ต้องทำ 2 คน พร้อมกันในเดือนเดียวกัน เป็นเงินคนละมากกว่า 85,000 บาท 2 คนรวมกัน 170,000 บาท (ราคานี้ยังมี Vat 7 % ที่ต้องจากเพิ่มอีก) แล้วก็ไม่บอกด้วยว่ายังมีค่าใช้จ่ายหลังจากที่เป็น Sup แล้วอีกเท่าไหร่ (ขั้นต่ำ 20,000 บาท) แล้วถึงแม้ว่าเราบอกว่าขอทำงานเป็น Dis เพื่อเก็บเงิน และสร้างฐานลูกค้าก่อน แล้วค่อยทำคุณสมบัติ เพราะตอนนี้ไม่มีเงิน ก็จะได้รับคำแนะนำวิธีหาเงิน แทนที่จะทำตามแผนที่เราวางไว้ เช่นแนะนำว่าให้ไปกู้เงิน, ทำบัตรเครดิต เป็นต้น เพื่อให้นำมาทำคุณสมบัติให้ได้ แล้วบอกว่าเมื่อเป็น Sup จะได้อะไรบ้าง แต่ไม่บอกว่าต้องเสียอะไรบ้าง

เมื่อเรายอมเชื่อทำ คุณสมบัติแล้วโดยการซื้อสินค้ารวม Vat 7% เป็นมูลค่ากว่า140,000 บาท ซึ่งตรงนี้จะทำให้ Upline ของเราได้รับรายได้จากการที่เราสั่งซื้อสินค้าเป็นหมื่น และนี้ก็เป็นเหตุที่ Upline ของเราพยายามทำทุกวิถีทางที่จะให้เราเป็น Sup ให้ได้ แม้ว่าเราจะสั่งซื้อสินค้า แล้วขายไม่ได้ก็ตาม (ไม่มีฐานลูกค้า) เมื่อ Upline ของเราได้ตามเป้าหมายของเค้าแล้วในส่วนนี้ ที่นี้เค้าก็จะเริ่มเผยไต๋ออกมาให้เรารู้อะไรบ้างแล้ว (เพราะเราลงทุนไปแล้วถึงรู้ก็เลิกทำไม่ได้อยู่ดี) อย่างเช่น ต้องจ่ายเงินค่าโฆษณาเป็นรายเดือนอย่างต่ำ 15,000 บาท หรือมากกว่านั้น ต้องจ่ายค่า Office, ค่าโต๊ะ ประมาณ 5,000 บาท ต้องจ่ายค่าสมาชิกเป็นรายปีมากกว่า 2,000 บาท และยังมีรายจ่ายในการดำเนินการอีกมากมาย ซึ่งในความคิดเห็นของเรา เหมือนกับว่าเราทำงานต้องลงทุน และแบกรับความเสี่ยงเอง แต่ว่ารายได้ที่ได้ต้องนำมาให้กับทางบริษัทเกือบทั้งหมด กว่าจะขายให้ได้กำไร 20,000 บาท เน้นว่ากำไรนะ ต้องลงทุนไปเท่าไหร่ ต้องลงแรง ต้องยอมรับภาระขาดทุน แต่กลับไม่ได้ใช้เงิน เพราะต้องมาจ่ายให้บริษัทนี้ และการทำงานนี้มากกว่า 20,000 บาทต่อเดือน เท่ากับว่าไม่มีเงินที่จะนำมาใช้จ่ายได้เลย แถมต้องเป็นหนี้อีกต่างหาก เพราะกู้เงินมาทำคุณสมบัติแล้ว

แทนที่จะได้เงินมาคืน หนี้สิน แต่กลับต้องมาจ่ายให้กับบริษัทนี้ทุกเดือน แต่เราก็ต้องทำ เพราะคิดว่าต้องหารายได้มาใช้หนี้ที่กู้ยืมมาก่อน ก็พยามยามทำไปแต่ก็สู้รายจ่ายไม่ไหว รายชื่อที่ได้มาก็ไม่แน่นอน มีชื่อที่ลงแกล้งไม่มีตัวตนจริง และรายชื่อที่ได้ก็น้อยมาก ไม่คุ้มกับเงินลงโฆษณา 15,000 บาท เลยทำให้ขาดทุนเรื่อยๆ จึงปรึกษากับ Upline และได้คำแนะนำมาว่าเรายังให้เวลากับงานไม่พอ ซึ่งปกติก็เข้าบริษัทสม่ำเสมอ และให้เวลากับงานนี้ 6 – 10 ชม.ต่อวันอยู่แล้ว แล้วถ้าอยากได้รายชื่อเพิ่ม ก็จ่ายเงินโฆษณาเพิ่มอีก และแนะนำให้เราพักการเรียน ถ้าเป็นคนที่ทำงานประจำจะให้ลาออกจากงานประจำ (มันเป็นกับดักให้เราไม่สามารถไปทำอย่างอื่นได้อีก ต้องหารายได้ให้กับเค้าตลอด อย่างคนที่เรียนไม่จบใครเค้าจะไปรับเข้าทำงานในตำแหน่งดีๆ เงินเดือนสูงๆ บ้าง ถ้ามีบอกด้วยนะจะได้ไปทำต้องการด่วนเลย ฮา ฮา ฮา...) แต่ถึงแม้จะทำตามที่บอกก็ไม่สามารถนำเงินที่หาได้มาใช้จ่ายส่วนตัวต้องจ่าย ให้กับบริษัทนี้ และลงทุนเพิ่มอีก

ลืมบอกไปแม้ได้ตำแหน่งแล้ว ก็ต้องทำยอดรักษาตำแหน่งด้วยนะ ไม่ใช่ว่าได้แล้วจะได้ตำแหน่งไปตลอด เช่นได้ตำแหน่ง SUP ก็จะมีสถานภาพเป็น SUP ประมาณ 6 เดือนถ้าทำยอดไม่ได้ก็ถูกปลดเป็นสมาชิกธรรมดา ที่เค้าเรียกว่า Resup หรือ Re ตำแหน่งอื่นๆ ก็ว่ากันไป ฉะนั้นถ้าไม่มีฐานลูกค้าที่จะขายได้ในยอดนั้นๆ ตลอด แต่สั่งของทำยอดเอาตำแหน่งอย่างเดียว ก็เตรียมหาที่เก็บของไว้นอนกอดเล่นที่บ้านได้เลยขายเท่าไรก็ไม่หมด และอย่างลืมสินค้าสำหรับบริโภคมันมีวันหมดอายุนะยิ่งเก็บไว้นานโอกาสที่จะ ขายได้ก็ลดลงทุกที

ส่วนรายได้อีกทางก็คือการหลอกให้คนอื่นมาเป็น Sup ซึ่งก็คือ Down line ของเรานั่นเอง แล้วก็ต้องทำแบบ UP LINE ที่เคยทำกับเรา ถ้ายังมีจิตสำนึกของความเป็นคนอยู่ก็อย่าทำให้คนอื่นต้องมาเป็นหนี้แบบเรา เลยมันบาปมากๆ นะ ถ้าบริษัทนี้มีความจริงใจจริงๆ ก็ควรจะบอกรายละเอียดทั้งหมดให้ทราบตั้งแต่แรก ไม่ใช่ว่ามาหลอกเอาเงินจากเราไปแบบนี้แล้วค่อยมาบอกกัน เจอกันวันแรกก็โกหกกันซะแล้วจริงใจมากๆ เลย

ข้อมูลนี้น่าจะเป็น ประโยชน์กับส่วนรวมนะครับ อยากให้ช่วยกันนำไปเปิดเผยให้มากที่สุดจะได้ไม่มีใครต้องมาเสียอนาคต หรือถูกหลอกลวงอีก แต่สำหรับคนที่ต้องการดำเนินธุรกิจนี้จริงๆจะได้มีข้อมูลไว้ประกอบการตัดสิน ใจ และควรคำนวณส่วนได้ส่วนเสียให้ดีจะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง (ส่วนได้ส่วนเสียที่ว่านี้ใช่เพียงตัวเงิน มันร่วมถึงคุณธรรม,จิตสำนึก และความเป็นคนด้วย)

หมายเหตุ : เนื้อหาในเอนทรีคือเนื้อหาที่รวบรวมมาจาก เว็บไซต์และกระทู้ต่างๆ เพื่อทำให้เป็นข้อมูล reference ใน net ให้ คน search เข้ามาหาความจริงกันได้ครับ
ขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆ ท่านมากเลยครับ ขอดลบันดาลให้หนึ่งเสียงของท่านที่เคยแบ่งปันประสบการณ์เข้ามา ท่านที่คิดดีทำดี ไม่เคยคิดคดโกงใคร จงประสบแต่
ความสุขความเจริญนะครับ

- ผู้เขียนบทความนี้ ไม่ได้มีอาชีพขายตรงกับบริษัทใด ๆ และไม่ได้เขียนโจมตีเฮอร์บาไลฟ์+ซีมูซี่เพื่อชวนไปทำบริษัทอื่น
- เรื่องทั้งหมดที่เขียนขึ้น เป็นเรื่องจริง จากประสบการณ์จริง (เรื่องชั่ว ๆ ที่ผู้เขียนเองก็เคยร่วมกระทำอย่างไม่มีทางเลือก)
- ผู้เขียนไม่ได้แอนตี้อาชีพขายตรง แต่แอนตี้ขายตรงบางสายงาน ที่ทำธุรกิจนอกรีด หลอกลวง ไร้จรรยาบรรณ และศีลธรรม

** ท่านเองก็มีสิทธิ์ช่วยเหลือสังคม และช่วยเหลือผู้อื่นที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อได้ เพียงแนะนำบลอคนี้ หรือเอาเนื้อหาบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อเป็นวิทยาทานได้นะครับ และ
จะยินดีเป็นอย่างยิ่งหากท่านช่วยเพิ่มเติมข้อมูลต่างๆ แชร์ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันเอาบุญด้วยครับ (เชิญแสดงความคิดเห็นกันได้เลย)
ขอความกรุณาเว็บมาสเตอร์ของเว็บไซต์ต่างๆ งดรับลงโฆษณาดังกล่าว ถือเสียว่าเป็นการทำบุญกับคนนับหมื่น และหากท่านสามารถแบ่งพื้นที่เล็ก ๆ บนหน้าเว็บของท่าน
เพื่อประกาศเตือนภัยสังคมนี้ได้ ท่านอาจจะได้ทำบุญกับคนอีกนับแสนเลยทีเดียว...ขอให้ท่านมีความสุขความเจริญสืบไป

แฉ ที่มาของรายได้ ธุรกาก Global Advertising ที่สร้างความเดือดร้อนในชาว facebook

อยากให้คนที่เคยตกเป็นเหยื่อ Global Advertising ซึงผมเชื่อว่ามีอยู่จำนวนมากมายหลายหมื่นคน หรืออาจเป็นแสนก็ได้ ช่วยกันออกมากระชากหน้ากากกลุ่มผู้บริหารของ Global Ad. ที่สร้างความรำรวยให้แก่ตัวเอง บนความทุกข์ยากของผู้อื่นที่ต้องสูญเสียเงินจำนวนมากให้แก่พวกเขา แต่ก็น่าสงสารกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งที่ยังคงทำงานอยู่ที่นั่น ทั้งที่เข้าใจและไม่เข้าใจแก่นแท้ในการดำเนินธุรกิจของ Global Ad. ว่าอันที่จริงมุ่งเน้นไปที่ระบบแชร์ลูกโซ่โดยอาศัยธุรกิจขายตรง (MLM) บังหน้า สำหรับบางคนที่ยังไม่เคยรู้เรื่องเกียวกับ Global Ad. มาก่อน

ผมขออธิบายคร่าวๆดังนี้ครับ

บริษัทนี้ก่อตั้งโดยชาว Denmark ชื่อ ไมเคิล ซาเฟล เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา ดำเนินธุรกิจขายตรงให้แก่สินค้าอาหารเสริม Herbalife จากอเมริกา (ในเมืองไทยมีบริษัทประมาณ 5 แห่งที่รับทำขายตรงให้แก่ Herbalife รวมทั้ง Global Ad.)

ฉนั้น Herbalife อเมริกา อาจจะไม่มีส่วนรับรู้ในการหลอกลวงผู้คนในบ้านเราก็ได้ และมีข่าวว่าตอนนี้ Global Ad. เลิก ขายสินค้าของ HBL แล้ว โดยหันไปขายสินค้าของ AGEL แทน (แต่ยังคงนโยบายธุรกิจแบบเดิมคือขายตรงแบบแชร์ลูกโซ่)

การเข้าร่วมทำธุรกิจกับ Global Ad. ทำได้ 2 ลักษณะ คือ

1. สมัครเป็นตัวแทนขาย (Distributor) จ่าย 1,475 บาท มีสิทธิ์ซื้อสินค้าโดยได้ส่วนลด 25% (คนที่สมัครในกลุ่มนี้จะไม่ได้การสนับสนุนมากนักเพราะสร้างรายได้ให้แก่ กลุ่มผู้บริหารได้น้อย)
2. สมัครเป็น Supervisor จ่ายเงินซื้อสินค้า 140,000 บาท เพื่อให้ได้แต้ม 4,000 แต้ม ตรงนี้แหละที่บริษัทส่งเสริมสนับสนุนพราะทางบริษัท Global ได้กำไร 50% จากเงินก้อนนี้ แต่ถ้าหากมีเงินไม่ถึง 140,000 ก็สามารถทะยอยจ่ายซื้อสินค้าจนกว่าจะครบ 140,000 ก็ได้ หรืออาจหาคนมาสมัครพร้อมกับตนเองอีก 1 คน จ่ายซื้อสินค้าคนละ 89,000 บาท ก็สามารถเป็น Sup.ได้ทั้งสองคนพร้อมกัน การได้เป็น Sup มีสิทธิหารายได้จากการชักชวนให้คนมาสมัครทำธุรกิจภายใต้ชื่อของตนเอง เช่นหาคนมาเป็น Sup ต่อจากตนเอง(ซึ่งก็ต้องซื้อสินค้า 140,000 เช่นกัน) ให้ได้จำนวนคน(มีแต้มให้ในแต่ละคน) ตามที่กำหนดจึงจะมีรายได้จากบริษัท แต่ถ้าหาคนมาสมัครไม่ได้เลยก็ต้องพยายามอีกทางหนึ่งคือซื้อสินค้าจากบริษัท ไปขายให้ได้ยอดซื้อ(แต้ม) ตามที่กำหนดจึงจะได้รับเงินจากบริษัท หรือทำทั้งสองทางควบคู่กับจนมีแต้มครบตามที่กำหนดจึงจะได้รับรายได้

บางคนพยายามทำแต้มโดยการซื้อสินค้าจำนวนมากเพื่อให้ได้แต้มครบ แล้วนำสินค้าไปขายเท่าทุนหรือขาดทุนในตลาดมืด เพราะฉนั้นถ้าต้องการมีรายได้แบบไม่เจ็บตัวควักเนื้อก็ต้องหา(หลอก)คนมา สมัครต่อจากตน(หาลูกทีม) ให้ได้มากๆ หรือพยายามทำให้ลูกทีมหาคมมาสมัครต่อให้ได้มากๆ ถ้ามีความสามารถหลอกได้มาก ทำแต้มได้ตามเกณฑ์ทีกำหนดก็จะมีรายได้และตำแหน่งเพิ่มขึ้นเลื่อยๆ จาก Sup >World>Get>Millionaire>President

ปัจจุบันมีคนระดับ President ใน Global Ad. อยู่ 8 คน มีรายได้ต่อเดือน หลักแสนบาท หรือหลักล้านสำหรับบางคนเช่น ไมเคิล ซาเฟล ซึ่งเป็น Big Boss อยู่บนยอดสุดของแชร์ลูกโซ่นี้ แต่พี่น้องทั้งหลาย อย่าหวังว่าจะขึ้นเป็น President ได้ง่ายๆนะครับ ส่วนใหญ่ก็ไปจอดป้ายแค่ Get ซึ่งก็มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่มากนัก(ต้องพูดว่ารายได้เฉลี่ยนะครับเพราะ รายได้แต่ละเดือนไม่แน่นอน พวกที่ขึ้นไปพูดบนเวทีในวันอบรมผู้มาสมัครใหม่ว่าได้เป็นหมื่นเป็นแสนไม่ได้ หมายถึงว่าได้ทุกเดือน) ถ้าใครเคยไปที่ตึก All Season หรือที่ใหม่ที่ตึก Ampire Tower เห็นคนมากมายนับพันคนขอบอกว่ามีคนหน้าเก่าๆอยู่เป็นส่วนน้อย (น่าจะประมาณ หนึ่งในสี่) แต่ส่วนใหญ่เป็นเหยื่อรายใหม่ที่หมุนเวียนหลงเข้าไประยะหนึ่งแล้วก็หายหน้าไป

ข้อความนี้นำมาจากเพื่อนคนนึง ใน facebook Don Doodee
เช่นเดียวกับผมที่มุ่งหวังจะหารายได้จากที่นี่ แต่แล้วก็สมน้ำหน้าตัวเองที่โง่ไปให้เขาเชือดเอง เงินที่เสียไปก็ไปกู้ยืมมาเช่นกัน ยิ่งอยู่ยิ่งเสียจนกว่าจะไปให้ถึง Millionaire หรือ President จึงจะมีรายได้มากพอ ในช่วงเวลาที่ผมอยู่ที่ Global ผมไม่ได้หาลูกทีมเลยแม้แต่คนเดียว เพราะทำไม่ลง กลัวว่าถ้าชวนเขามาเสียเงินแล้วเขาล้มเหลวก็จะรู้สึกเป็นบาป ไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรม จึงพยายามหารายได้จากการขายของอย่างเดียว แต่แล้วก็ไปไม่รอด ขอบคุณ Herbalife

รวบรวมมาไว้ให้อ่านกันจะได้ไม่มีคนตกเป็นเหยื่อ จริงไม่จริงก็พิสูจน์เอาเองนะค่ะ ;D



INSURANCETHAI.NET
Line+