สิ่งที่ห้าม รับประทาน(งดเว้น)

สิ่งที่ห้าม รับประทาน(งดเว้น) โดยเภสัชกร ดร. นิพนธ์ ตุวานนท์

1. น้ำตาล (Glucose) เซลล์มะเร็ง ชอบกลูโคส เพราะเป็นปัจจัยหลัก ในการแบ่งเซลล์ เนื่องด้วยเซลล์มะเร็งมีการแบ่งตัวเร็วมาก จึงมีการเผาผลาญน้ำตาลสูง การตรวจหาเซลล์มะเร็งโดยวิธี PET/CT(Position Emission Tomography) ซึ่งเป็นเทคโนโลยี ล่าสุดและแม่นยำที่สุดในการตรวจหามะเร็งในระยะเริ่มแรกก็ใช้ การฉีดน้ำตาล FDG ซึ่งติดสลาก (Label) ด้วยสารรังสี F-18 ให้กับผู้รับการตรวจแล้วถ่ายภาพออกมา F-18 (FDG)จะเข้าไปแทนที่กลูโคส ในเซลล์ มะเร็งได้มากกว่าเซลล์ปรกติ และไม่สามารถปล่อย F-18 (FDG) ออกมานอกเซลล์มะเร็งได้ เมื่อถ่ายภาพก็จะได้จุดสีดำบริเวณเซลล์มะเร็ง

2. ไขมันสัตว์  (Animal Fat) เป็นปัจจัยหลัก ที่เซลล์มะเร็งใช้ในการแบ่งเซลล์

3. ปลาเค็ม ปลาเกลือ ปลาสลิดตากแห้ง ส่วนใหญ่ มักปนเปื้อนยาฆ่าแมลง ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง หากมีความอยากมากที่จะรับประทาน ให้หายี่ห้อที่มีตรา GMP(Good manufacturing Practice) และHACCP(Hazard Agent Crtical Control Point)ตรา HACCP นี้ได้ยากมาก จะแสดงว่าผลิตภัณฑ์อาหารนั้นมีการควบคุม กระบวนการผลิตเป็นอย่างดีเลิศ และไม่มีสารพิษ ปนเปื้อน มีอยู่ 2-3 ยี่ห้อในซุปเปอร์สโตร์

4. ถั่วงอก  ยอดมะพร้าวอ่อน และยอดตาลอ่อน ที่มีสีขาวสดสวยผิดธรรมชาติ เพราะปนเปื้อนด้วยสารฟอกขาว หรือ ฟอร์มาลีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง

5. อาหารทะเล ที่วางขายทั่วไปในตลาด ส่วนใหญ่จะแช่น้ำยาฟอร์มาลีน ซึ่งป็นสารก่อมะเร็ง และทำให้ผู้รับประทานเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง ปัจจุบันมีการผสม Borax กับน้ำแข็ง ใช้แช่ อาหารทะเล เพื่อขยายเวลามิให้เน่าเสีย ควรรับประทานอาหารทะเลสด หรือที่ขายตามห้าง หรือแช่แข็งในหีบห่อที่ผลิตโดยบริษัทชื่อดังที่ส่งออกขายต่างประเทศ จะมีขายตามห้างใหญ่ๆเลือกที่มีตรา GMP หรือ HACCP

6. เนื้อหมู เนื้อไก่ ในตลาดสด มักเป็นเนื้อที่มาจากฟาร์ม เลี้ยงที่ไม่มีการควบคุม การใช้ยาปฏิชีวนะ ฮอร์โมน สารเร่งเนื้อแดง ให้ทานเนื้ออนามัย (Hygienic Meat) ที่ระบุบนฉลาก ว่าปราศจากการใช้ยาต่างๆในกระบวนการผลิต และมีตรา GMP ซึ่งจะมีวางขายในห้าง

7. ปลาเจ่า ปลาส้ม ปลาร้า และแหนม จะใส่ดินประสิว (เกลือ ไนเตรท เกลือไนไตรท์ )ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง

8.ข้าวมันไก่ ไก่ตอน มักจะฝังฮอร์โมนในตัวไก่ และ เกิดการตกค้างของฮอร์โมน

* สิ่งที่ไม่ควรรับประทาน(เสพ) และ พึงหลีกเลี่ยง โดยขอกล่าวโดยรวมเพื่อเป็นการสรุปเพื่อกระชับใจความ ดังต่อไปนี้
- อาหารกระป๋อง มีสารกันบูด(วัตถุกันเสีย,Preservatives)
- อาหารหมักดอง อาจมี สารขัณฑสกร(Saccharin-Sodium)
- บุหรี่ มีสารก่อมะเร็ง
- โกโก้ ช็อคโกแล็ค ครีม และ ไอศครีม มีไขมันสูง เพราะเซลล์มะเร็งชอบไขมัน
- แอลกอฮอลล์ เหล้า ไวน์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ทุกชนิด เพราะเครื่องดื่มพวกนี้จะทำให้ภูมิต้านทานร่างกายของเราลดลง
- หลีกเลี่ยง ชา กาแฟ เพราะมี Caffeine ซึ่งเป็นสารกระตุ้น ถ้าอยากกินให้อยู่ในปริมาณที่น้อย แต่ถ้าเป็นชาเขียวดีครับ เพราะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง
- น้ำนม โยเกิร์ต เนย ที่ให้ไขมันสูง และ ยังทำให้ลำไส้หลั่งสารมิวคัส(Mucus) ซึ่งเป็นอาหารของมะเร็ง
- โปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก ทำให้เกิดเนื้อตกค้าง เน่าเปื่อยในลำไส้ใหญ่ นำไปสู่การเกิดสารพิษ ท้ายสุดสารพิษ(Polyps) ในลำไส้ใหญ่ จะพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด
- ไม่ควรดื่มน้ำประปา ถึงแม้จะต้มสุก เพราะยังมีสารคลอลีนซึ่งจะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง ให้ดื่มน้ำแร่ดีที่สุด(Mineral Water)
- ไม่อุ่นอาหารในถุงพลาสติก ในเตาไมโครเวฟ เพราะจะเกิดสาร Dioxin ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มะเร็งเต้านม ให้ใช้ภาชนะ แก้วทนความร้อน Pyrex, Corning, หรือ เซรามิคในการอุ่นอาหาร
- หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะหม้อที่ทำจากอลูมิเนียม ให้ใช้เป็น สแตนเลส หรือ แก้วทนความร้อน แทน
- หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อแดง เพราะจะทำให้เกิดสภาวะเป็นกรด ซึ่งเซลล์มะเร็งจะเติบโตได้ดีในสภาวะเป็นกรด และ ยังมีไขมันสูงที่เป็นอาหารตัวโปรดของมะเร็ง หลีกเลี่ยงการทานเนื้อหมู และ เนื้อวัว ทานเป็นเนื้อปลาดีที่สุด
- หลีกเลี่ยงการทานน้ำมัน(Cooking Oil) ที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ในขณะเดียวกัน ไขมันไม่อิ่มตัวก็มีกรดไขมัน(Unsaturated Fatty acid) ที่มีความเสถียรต่ำถูกกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระได้ง่าย อนุมูลอิสระ จะไปจับกับ ดีเอ็นเอ ทำให้การถอดรหัสภายในเซลล์ผิดพลาด ส่งผลไปถึงการเกิดเซลล์มะเร็งได้ ควรลดการทานไขมันอิ่มตัว และ ไม่อิ่มตัว หรือ หลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรใช้น้ำมันมะกอก, น้ำมันแคโนลา, น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน, หรือ น้ำมันข้าวโพด เพราะมีไขมันอิ่มตัวต่ำ งดใช้น้ำมันปาล์ม-น้ำมันหมู
- หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อ ปิ้ง ย่าง ต้มตุ๋น นานๆ(เกิน 2 ชั่วโมง) ความร้อนจะทำให้ไขมันหลอมหยดลงบนถ่าน เกิดการสันดาปไม่สมบูรณ์ทำให้ได้สาร PAH (Polycyclic Aromatic Hydrocarbon) และ Heterocyclic amines ที่พบมากเป็นพวก Benzopyrine เป็นควันดำที่เกาะติดตามเนื้อปิ้ง ย่าง รมควัน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่ และ เนื้อที่ต้มตุ๋นนานๆ จะเกิดสาร Heterocyclic amines ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งได้เช่นกัน
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารทอด เช่น มันทอด กล้วยทอด ไก่ทอด น้ำมันที่ใช้ทอดหลายๆครั้งในความร้อนสูง จะเกิดสารประกอบโพลาร์(Polar Compounds) ซึ่งให้อนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นอันตรายต่อการเกิดเซลล์มะเร็ง
- หลีกเลี่ยงการใช้ซอสปรุงรส และ ซีอิ้วขาว ซึ่งใช้กรดเกลือย่อยถั่วเหลืองก่อนนำไปหมัก เพื่อเร่งกระบวนการหมักให้เร็วขึ้น โดยวิธีการนี้จะได้ซอสที่เกิดสารพิษในกลุ่ม Chlorinated Hydrocarbon ปนเปื้อนมา ที่พบมากคือ 3-MCPD ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย ดังนั้นก่อนซื้อควรอ่านฉลากให้ดีว่า ซอสปรุงรสหมักโดยวิธีทางธรรมชาติเท่านั้น
- หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปที่ใช้วัตถุกันเสีย หรือ เรียกภาษาชาวบ้านเรียกว่าสารกันบูด เพราะพวกนี้จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา เช่น น้ำพริกหนุ่ม, กะปิ, เส้นก๋วยเตี๋ยว
- หลีกเลี่ยงการทานถั่วลิสง เพราะส่วนใหญ่จะมีสารอฟลาท็อกซิน(Aflatoxin) ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งที่ตับ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานผักสดจากตลาดสดทั่วไป เพราะส่วนใหญ่จะปนเปื้อนด้วยยาฆ่าแมลง หลากหลายชนิดเพื่อให้ได้พืชผักที่สวยงาม แทนที่เราจะทานพืชผักเพื่อสุขภาพ แต่กลับได้โทษ เพราะในสารพิษเหล่านี้ กลับกลายเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก ถ้าเราต้องการทานผักให้เลือกซื้อผักในห้างที่ผ่านการควบคุมดูแลการปลูก (จ่ายแพงกว่านิดหน่อย แต่ได้สุขภาพที่ดีแน่นอน) ถ้าเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะทานผักจากตลาดให้ล้างด้วยน้ำหลายๆครั้ง และ แช่ด้วยผงฟู(Sodium Bicar bonate) หรือ ผงถ่าน(Activated Charcoal)
- ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมให้งดการบริโภค นมถั่วเหลือง เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองทุกชนิด และ งดทาน หัวมัน มะพร้าวอ่อน สาหร่ายสไปรูไลน่า เพราะสารอาหารเหล่านี้จะให้สารประกอบออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน อาหารเหล่านี้จัดอยู่ในกลุ่ม ?Phytoestrogen? (ฮอร์โมนเอสโตรเจนจากพืช)
- ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งปอด ให้งดทานอาหารที่มีเบต้าคาโรทีน(Beta-carotenes) สูง เช่น แครอท มะละกอ ปริมาณสูงของบีต้า คาโรทีน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด