10 ข้อยอดฮิตของคนคิดเล็ก ที่ไม่รวยสักที
684

10 ข้อยอดฮิตของคนคิดเล็ก ที่ไม่รวยสักที

“คนเราคิดอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น”
“ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่จะเป็นคนคิดเล็ก”
“เมื่อเราเปลี่ยนความคิด ชีวิตเราก็จะเปลี่ยน”
“ขนาดของการกระทำ ขึ้นอยู่กับขนาดของการคิด”
“เปลี่ยนความคิดของเราก่อน แล้วเราจะเปลี่ยนโลกทั้งโลกได้”


         
            แค่คิด ชีวิตเปลี่ยน แม้เพียงคำกล่าวเดียว สามารถทำให้บางคนเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนชีวิตได้ ในขณะที่อีกหลายคน แทบไม่มีผลต่อชีวิตเลย จึงมีคนราว 20% เท่านั้น ที่เป็นผู้ประสบความสำเร็จ มาดูกันว่า 10 ข้ออ้างยอดฮิตที่ทำให้คิดใหญ่ไม่เป็นของคนคิดเล็กที่เหลือนั้นมีอะไรบ้าง


            1. อ้างอายุ คือ อ้างว่าอายุมากแล้ว แก่เกินไปแล้วที่จะมาเสี่ยงคิดโน่นคิดนี่ หรือทำโน่นทำนี่ ก็อาจจะอ้างอีกว่าอายุยังน้อย ยังอ่อนด้อยประสบการณ์ ผมก็เลยงงๆว่าแล้วต้องอายุเท่าไหร่กัน จึงจะถือว่าเป็นวัยเจริญพันธุ์สำหรับการคิดใหญ่?

            2. อ้างการศึกษา คือ อ้างว่าเรียนมาน้อย สู้ใครเขาไม่ได้ คิดไม่ทันชาวบ้านเขา ข้อมูลน้อย ก็มักจะอ้างว่า อุตส่าห์เรียนมาเสียสูงถึงระดับปริญญาโท ปริญญาเอก แล้วให้มาคิดเรื่องแค่เนี้ย เสียเวล่ำเวลา

            3. อ้างสติปัญญา หลายคนคิดว่าตนเองไม่ฉลาดพอที่ไปคิดอะไรที่มันใหญ่โต บางคนดูถูกตัวเองว่าไอคิวก็เตี้ย ไอเดียก็ต่ำ จะไปทำอะไรได้ คิดอะไรที่มันซับซ้อนไม่เป็น คิดมากแล้วปวดหัว

            4. อ้างสุขภาพ สุขภาพกายก็ไม่ดี สุขภาพจิตก็แย่ เดี๋ยวสามวันดี เดี๋ยวยี่สิบสี่วันไข้ เหลืออีกสองสามวันก็ต้องไปนอนพักฟื้นอีก แค่คิดว่าพรุ่งนี้ยังจะมีชีวิตรอดต่อไปอีกวันนึงไม๊ ก็จะแย่แล้ว ยังจะมากะเกณฑ์ให้คิดอะไรใหญ่ๆ โตๆ กันอีกล่ะ ที่พอจะคิดได้ตอนนี้ก็คือคิดอยู่แค่สองเรื่องเท่านั้น คือจะจองห้องไอซียูดี หรือว่าจะจองวัดจองเมรุไปเลยจะดีกว่า

            5. อ้างฐานะทางเศรษฐกิจ คือ อ้างว่ายากจนเกินกว่าจะไปคิดอะไรได้ ไม่มีต้นทุนอะไรติดตัวมาเลย ถ้ามีสมบัติเก่ามากหน่อยก็จะได้ไม่ต้องมากังวลอะไร จะได้เอาเวลาไปคิดใหญ่ให้มันมันส์ทะลุฟ้า บ้าทะลุดินไปเลย

            6. อ้างภาระครอบครัว คือ อ้างว่าไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือย มีทั้งลูกกวนตัว มีทั้งผัวกวนตีน ภาระครอบครัวหนักขนาดนี้ แค่ประคองตัวให้พอหายใจกันไปได้วันๆหนึ่งก็จะแย่แล้ว จะให้เสี่ยงชีวิตไปคิดใหญ่คิดโตบ้าบอคอแตกอะไรกันอีก เออ ถ้าเป็นคนโสด ไม่มีภาระครอบครัวก็ไปอย่าง

            7. อ้างโชควาสนา อ้างว่าคิดไปก็เท่านั้น คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต! แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งบุญวาสนามันแข่งกันไม่ได้หรอก  ฉันมันเป็นคนที่ไม่มีโชคทางนี้ สวรรค์ไม่เคยมีตา และถึงแม้จะมีตาก็หามีแววไม่!

            8. อ้างปมด้อยในอดีต หลายคนเอาเรื่องในอดีตมาทำลายเรื่องในปัจจุบัน แล้วก็เอาไปบั่นทอนเรื่องในอนาคตด้วย คนอย่างฉันทำอะไรก็ล้มเหลวหมด ใช่สิฉันมันคนบ้านแตกสาแหรกขาด พ่อแม่หย่ากันตั้งแต่ฉันยังไม่เกิด คนอย่างฉัน เมียยังทิ้ง ฯลฯ

            9. อ้างพรสวรรค์ อ้างว่าไม่มีพรสวรรค์ทางนี้ เห็นคนอื่นเขาทำอะไรได้ดี ก็เหมาเอาว่าเป็นเพราะเขามีพรสวรรค์ หาข้ออ้าง หาข้อแก้ตัวเสียจนไม่เคยไปดูเลยว่าคนที่เขาประสบความสำเร็จนั้น พวกเขาล้วนใช้พรแสวงกันทั้งสิ้น

            10. อ้างว่ายาก อ้างว่าเป็นไปไม่ได้ ในบรรดาข้ออ้างทั้งหลายที่ได้กล่าวมาทั้งหมดตั้งแต่ต้นนั้น ก็เห็นจะมีข้อนี้แหละที่พอฟังขึ้น ใช่สิครับ การคิดอะไรใหม่ๆ และคิดอะไรใหญ่ๆ มันก็ต้องกล้าคิดในเรื่องที่มันยากๆ ในเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้ ปัญหาก็คือเรากล้าที่จะคิดหรือเปล่าล่ะ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ถึงได้กล่าวว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” จินตนาการก็คือ การกล้าคิด กล้าฝัน ในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้านั่นเอง

          ข้อจำกัดเพียงประการเดียวที่ทำให้เราดีขึ้นกว่านี้ไม่ได้ เก่งขึ้นไม่ได้ ก็คือ ความคิดที่ว่าเราทำไม่ได้ เท่านั้นเอง

อ.วสันต์ พงษ์สุขประดิษฐ์



INSURANCETHAI.NET
Line+