โบรกเกอร์ประกันภัยนิติฯระส่ำ! ฮือค้านคปภ.มัดนายหน้าบุคคลฯ
789

โบรกเกอร์ประกันภัยนิติฯระส่ำ! ฮือค้านคปภ.มัดนายหน้าบุคคลฯ

นโยบายคปภ.ล้อมคอกนายหน้าบุคคลธรรมดาพ่นพิษ นายหน้าประกันนิติบุคคลยักษ์ใหญ่ระส่ำ!ส่อไม่เห็นด้วยแนวทางแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ยันลิดรอนสิทธิและไม่เป็นธรรมกับนายหน้าบุคคลธรรมดาที่มีพฤติกรรมดีๆ แถมหวั่นต้องเข้ามาแบกภาระรับผิดชอบความเสียหายอ่วม หากเกิดนายหน้าบุคคลธรรมดาที่บริษัทรับเข้าสังกัดแล้วไม่ดี เกิดกรณีไปหลอกขายประกันฯซ้ำหวั่นสร้างความเสียหายให้กับลูกค้าไม่รู้จบ!

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบการธุรกิจประกันภัย(คปภ.)เปิดเผยว่า ตามที่นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคปภ.ได้เรียกบรรดาบริษัทนายหน้าประกันภัย(โบรกเกอร์)ขนาดใหญ่ที่มีพอร์ตงานจำนวนมากเข้าพบเพื่อสอบถามความเห็นถึงแนวทางที่คปภ.จะนำออกมาใช้ล้อมคอกบรรดานายหน้าบุคคลธรรมดาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหามีมิจฉาชีพเข้ามาหลอกขายประกันกับลูกค้าเช่นกรณีเกิดข่าวอื้อฉาวเมื่อเร็วๆนี้ โดยบริษัทโบรกเกอร์ที่เข้าร่วมพูดคุยได้แก่ บริษัทโตโยต้าอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ บริษัทฮอนด้าอินชัวรันส์โบรกเกอร์ ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส บริษัทล็อคตันโบรกเกอร์ บริษัททีคิวเอ็ม  โบรกเกอร์ และอีกหลายรายเป็นต้น

โดยประเด็นที่ 1 ซึ่งเลขาธิการคปภ.ได้มีแนวคิดเสนอให้นายหน้าบุคคลธรรมดาต้องสังกัดกับบริษัทนายหน้านิติบุคคล ส่วนประเด็นที่ 2คปภ.ได้เสนอให้นายหน้าบุคคลธรรมดาเวลาจะส่งงานให้ใคร จะต้องมีหนังสือรับรองความประพฤติจากนายหน้านิติบุคคล เพื่อจะใช้มายืนยันในเวลาต่อใบอนุญาตกับคปภ. แต่ทั้ง 2 ประเด็นนี้ยังไม่มีกฎหมายบัญญัติให้คปภ.สามารถกระทำได้ เพียงแต่คปภ.ได้เสนอแก้ไขไว้เรียบร้อยแล้วในร่างพ.ร.บ.ประกันชีวิตและพ.ร.บ.ประกันวินาศภัยฉบับแก้ไขใหม่เพียงให้นายหน้าบุคคลธรรมดาต้องสังกัดนายหน้านิติบุคคลเท่านั้น

แต่ทว่า ก็ยังอยู่ในระหว่างรอการพิจารณาเห็นชอบจากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)กันอยู่ โดยปัจจุบันยังไม่ผ่านออกมาใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งขณะนี้คปภ.อยู่ระหว่างมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปดูข้อกฎหมายในอนุบัญญัติว่า จะสามารถทำตอนนี้ได้หรือไม่ จริงอยู่แม้ว่า สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย(โบรกเกอร์)แม้จะไม่ติดใจและเห็นด้วยกับประเด็นนี้ แต่ทว่า คปภ.ก็มีความกังวลไม่น้อย เพราะบริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยที่เป็นนิติบุคคลในระบบมีกว่าหลายร้อยบริษัทที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทยอาจจะไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้ก็ได้ โดยปัจจุบันมีเพียง 60 บริษัทที่เป็นสมาชิกสมาคมฯเท่านั้น

อีกทั้งในการเรียกบรรดาบริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่เข้ามาชี้แจงครั้งนี้ ก็ได้มีข้อโต้แย้งหรือไม่เห็นด้วยของบางบริษัทอาทิเช่น บริษัทโตโยต้าอินชัวรันส์โบรกเกอร์ที่คัดค้านเรื่องนี้ เช่นเดียวกันกับบริษัทโบรกเกอร์อีกหลายรายส่วนใหญ่ที่ได้มีการพูดคุยกันนอกรอบและก็มองว่า เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาไม่ถูกต้อง หากจะไปบังคับหรือลิดรอนสิทธิเสรีภาพของนายหน้าบุคคลธรรมดา ซึ่งนายหน้าบุคคลธรรมดาอาจจะไม่ชอบที่จะทำงานอยู่ภายใต้สังกัดนายหน้านิติบุคคลก็ได้

และอีกประการหนึ่งที่บริษัทโบรกเกอร์ฯต่างมองว่า กรณีเกิดเหตุสร้างความเสียหายจากฝีมือนายหน้าบุคคลธรรมดารายหนึ่งที่เป็นแกะดำ แล้วมาใช้มาตรการจัดการกับนายหน้าบุคคลธรรมดาที่ดีๆและมีธรรมาภิบาลเช่นนี้ ก็คงไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมกับนายหน้าบุคคลธรรมดาที่มีพฤติกรรมดีๆ ซึ่งประเด็นนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอย่างไม่ถูกต้อง ทั้งๆที่ปัญหาพฤติกรรมของนายหน้าบุคคลธรรมดาในรายที่กระทำผิดและถูกจับกุมได้ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปเมื่อเร็วๆนี้นั้น ได้มีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนกับ คปภ.จำนวนมาก แต่ คปภ.กลับอ้างว่า ไม่มีอำนาจเข้าไปจัดการเอาผิดได้ เพราะกฎหมายไม่ให้อำนาจ ก็ควรจะไปแก้ไขที่กฎหมายให้เพิ่มอำนาจให้แก่คปภ.เสียมากกว่าจะออกกฎเกณฑ์ป้องปรามเอากับนายหน้าบุคคลธรรมดาที่ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมดีๆ

แหล่งข่าวบริษัทนายหน้าประกันภัยยักษ์ใหญ่รายหนึ่ง ให้มุมมองว่า สำหรับประเด็นที่คปภ.ได้เสนอห้ามเฉพาะนายหน้าบุคคลธรรมดารับเงินชำระค่าเบี้ยประกันจากลูกค้า โดยให้ลูกค้าชำระค่าเบี้ยประกันโดยตรงกับบริษัทประกันภัยที่ซื้อเอง โดยบริษัทประกันภัยเองต้องไปหารือกับบริษัทสมาชิกเพื่อเปิดช่องทางรับชำระเงินให้มากขึ้นเพื่อให้บริการลูกค้าอย่างทั่วถึง โดยประเด็นนี้คปภ.อยู่ระหว่างตกลงหารือกับสมาคมประกันวินาศภัยว่าจะทำได้หรือเปล่า

โดยประเด็นนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปหรือข้อยุติจากบรรดาบริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่ที่เข้าร่วมประชุมกับคปภ.ที่ผ่านมาเช่นกัน โดยมองว่า มันไม่อาจสามารถปฏิบัติได้ เพราะการเก็บเงินเป็นการบริการลูกค้าอันหนึ่ง หากจะให้ลูกค้าต้องไปชำระเงินค่าเบี้ยประกันเอง ก็คงจะไม่สะดวกหรือเป็นการเพิ่มความยุ่งยากในขั้นตอนการทำประกันให้กับลูกค้าก็ได้ เพราะอย่าลืมว่า นับอดีตที่ผ่านมาจนปัจจุบันลูกค้าชำระค่าเบี้ยประกันผ่านนายหน้าบุคคลธรรมดามาอย่างยาวนานตลอด แล้วจู่ๆจะให้ยกเลิกโดยให้ลูกค้าไปหาหนทางจ่ายค่าเบี้ยประกันโดยตรงกับบริษัทประกันภัยเองนั้นคงเป็นไปไม่ได้

แหล่งข่าวรายนี้ ยังกล่าวอีกว่า หากมาตรการของคปภ.นำออกมาใช้จริงๆ ก็คงจะเกิดความปั่นป่วนอย่างมากทีเดียว เพราะนายหน้านิติบุคคลก็คงจะเกิดความเกรงกลัวกันมากว่า บริษัทอาจจะต้องเกิดมีภาระความรับผิดชอบมากขึ้น หากได้นายหน้าบุคคลธรรมดาบางรายที่ไม่ดีหรือมีพฤติกรรมไม่ตรงไปตรงมา หรือขาด  ธรรมาภิบาลเข้ามาอยู่ในสังกัด แล้วเกิดไปสร้างความเสียหายให้กับลูกค้า บริษัทนายหน้าประกันภัยที่เป็นนิติบุคคลก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และไปไล่เบี้ยเอากับนายหน้าบุคคลธรรมดาอีกทีหนึ่ง แทนที่เดิมนายหน้าบุคคลธรรมดาปกติแล้วจะส่งงานตรงกับบริษัทประกันภัย และบริษัทประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นตรงจุดนี้ แต่นี่เป็นการผลักภาระให้นายนิติบุคคลแทน

nakkhai.com



INSURANCETHAI.NET
Line+