เอ็มเอสไอจี ประกันภัย ผลประกอบการปี 57 เบี้ยประกันภัยกว่า 3,600 ลบ.
93

เอ็มเอสไอจี ประกันภัย ผลประกอบการปี 57 เบี้ยประกันภัยกว่า 3,600 ลบ.

เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย โชว์ฟอร์มผลประกอบการปี 57 ยอดเยี่ยมกวาดเบี้ยประกันภัยกว่า 3,600 ลบ.

เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยปลื้มผลประกอบการปี 57 วิ่งฉิวเติบโต 6.5% สร้างเบี้ยประกันภัยรับรวม 3,627 ล้านบาท โกยกำไรสุทธิกว่า 240 ล้านบาท ลั่นสิ้นปี 58 ขอโตต่อเนื่องลุยทุกช่องทางการขาย พร้อมผลักดัน ‘MSIG iAPP’ แอพพลิเคชั่นตัวช่วยลูกค้า ซื้อ-เคลม-จ่ายเงินออนไลน์ครบวงจร พร้อมเปิดตัว MSIG In-House Motor Surveyor บริการสำรวจอุบัติเหตุรถยนต์ระดับมาตรฐานของเอ็ม เอส ไอ จี เน้นชูจุดเด่นคุณภาพบริการที่เหนือกว่า เผยสิ้นไตรมาส 4 เปิดตัวครอบคลุมทุกหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ

นายรัฐพล กิติศักดิ์ไชยกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการประจำปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 ว่า "เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 3,627 ล้านบาท โดยจำแนกเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 59% ประกันภัยเบ็ดเตล็ด 25% ประกันภัยขนส่งสินค้าทางทะเล 13% และประกันอัคคีภัย 3% เราค่อนข้างพอใจกับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา เพราะเติบโตเกินกว่าเป้าหมาย โดยเราตั้งไว้อยู่ที่ 4% ซึ่งเป็นการตั้งเป้าหมายจากการประเมินภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเราเติบโตถึง 6.5% สูงกว่าการเติบโตโดยรวมของตลาดประกันวินาศภัย ซึ่งหากแยกตามประเภทการประกันภัย จะพบว่าประกันภัยรถยนต์เติบโตเพิ่มขึ้น 20% ประกันภัยขนส่งสินค้าทางทะเลเติบโต 8% ประกันภัยอุบัติเหตุเติบโตลดลง 1% ประกันภัยอัคคีภัยเติบโตลดลง 7% ประกันภัยเบ็ดเตล็ดเติบโตลดลง 20%"

"ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ดีของเอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย เพราะเราได้รับการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจากคู่ค้าทางธุรกิจผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะช่องทางตัวแทนที่มีการเติบโตในส่วนของเบี้ยประกันภัย 22%และช่องทางบริษัทนายหน้า 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้  ในส่วนผลประกอบการอื่นๆ เรามีกำไรจากการรับประกันภัย 240.8 ล้านบาท กำไรจากการลงทุน 81.2 ล้านบาท และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 241.4 ล้านบาทหลังหักภาษี  นอกจากนี้ เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยยังมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ที่ 351% ซึ่งมากกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) กำหนดไว้ถึง 3.5 เท่า”
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 นายรัฐพลกล่าวต่อว่า “สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทฯตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตที่ 10% หรือคิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวม 4,000 ล้านบาท มาจากกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายบุคคล 80% ผ่านช่องทางสาขาที่เรามีครอบคลุมทั่วประเทศ และการขายออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างดี และสะดวกสบาย สอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ส่วนอีก 20% มาจากกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายบรรษัท ซึ่งเป็นงานมาจากธุรกิจบริษัทนายหน้าและตัวแทนเป็นหลัก"

"ในปี 2558 เราวางแผนที่จะรุกลูกค้ารายบุคคลเต็มที่ โดยเจาะช่องทางสาขาที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน 20 สาขา รวมถึงที่จะเปิดใหม่ในปีนี้อีกหลายแห่ง นอกจากนี้เราพร้อมแข่งขันในตลาดออนไลน์อย่างเต็มที่ เนื่องจากปัจจุบันช่องทางนี้มีโอกาสการเติบโตค่อนข้างสูง และเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย โดยเราจะผลักดันให้ลูกค้าหันมาใช้บริการ MSIG iAPP มากขึ้น เนื่องจากแอพพลิเคชั่นผู้ช่วยตัวนี้จะสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ทั้งในการซื้อและจ่ายเบี้ยประกันภัยออนไลน์ โดยเฉพาะประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ 3+ และพรบ. พร้อมแจ้งเคลมสินไหมรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือแม้กระทั่งหาศูนย์บริการซ่อมรถยนต์ อู่ซ่อม รวมถึงโรงพยาบาลในเครือของเอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยได้อย่างง่ายดาย"

นายรัฐพล กล่าวอีกว่า "เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยยังมีแผนที่จะสร้างความเชื่อมั่นโดยการชูจุดเด่นด้านการบริการหลังการขายเป็นหลัก ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่คือ Business & Customer Solution Center เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อรับผิดชอบดูแลงานด้านบริการลูกค้าแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว เนื่องจากเราต้องการให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและติดต่อบริษัทฯ ได้ทันที ไม่เพียงเท่านั้น เรายังได้เปิดฝ่ายบริการสินไหมรถยนต์ที่สถานที่เกิดเหตุของตัวเองขึ้น หรือ MSIG In- House Motor Surveyor เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการลูกค้า และช่วยให้บริษัทฯ สามารถควบคุมคุณภาพการสำรวจอุบัติเหตุได้ด้วยตัวเอง รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที อันเป็นการสร้างมาตรฐานในการบริการด้านการเคลมให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบัน  MSIG In-House Motor Surveyor เริ่มให้บริการสำรวจอุบัติเหตุรถยนต์ที่สถานที่เกิดเหตุให้แก่ลูกค้าแล้ว โดยให้บริการครอบคุลมพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในในไตรมาส 1-2 แต่อย่างไรก็ตาม ตามแผนงานที่ตั้งไว้ ในช่วงไตรมาสที่ 3 จะขยายการให้บริการ MSIG In-House Motor Surveyor ครอบคุลมทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนในไตรมาสที่ 4 จะสามารถให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมตามจังหวัดใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ"

ในส่วนภาพรวมของอุตสาหกรรมประกันภัยประจำปี 2558 นายรัฐพลได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "สำหรับแนวโน้มของอุตสาหกรรมประกันภัยในปี 2558 ผมมองว่าตลาดประกันภัยจะเติบโตประมาณ 9% ตามที่คปภ. ได้คาดการณ์ไว้ หรือประมาณ 2  เท่าของ GDP โดยรวมของประเทศ โดยมีปัจจัยหลักมาจากตลาดรถยนต์ที่อาจจะมีการปรับตัวดีขึ้น การเปิดเสรีประชาคมอาเซียน (AEC) รวมไปถึงด้านกำลังการซื้อที่จะฟื้นตัวตามแนวโน้มความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น  ซึ่งตัวแปรเหล่านี้จะเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยให้เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้"

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
prachachat.net/news_detail.php?newsid=1427281022



INSURANCETHAI.NET
Line+