INSURANCETHAI.NET
Fri 29/03/2024 8:16:46
Home » ความรู้รถยนต์ » ขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง\"you

ขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

2015/05/23 2465👁️‍🗨️

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเอง นอกจากจะช่วยคุณประหยัดแล้ว ขั้นตอนในการเปลี่ยนถ่ายก็ไม่ยุ่งยาก
ขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
การ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องด้วยตัวคุณเอง ไม่แต่เพียงช่วยประหยัด มันยังง่ายมากอีกด้วย อย่างไรก็ดี พึงระลึกเสมอว่าในการบำรุงรักษายานพาหนะ สิ่งที่จะต้องตระหนักอย่างยิ่งคือ ความปลอดภัย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเคยมีประสบการณ์มาก่อนหรือไม่ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจะบอกขั้นตอนแต่ละขั้นตอนเพื่อให้คุณปลอดภัยมากที่ สุด และมีประสิทธิภาพที่สุด
สิ่งที่จำเป็น

* น้ำมันเครื่องคาสตรอลประมาณ 5 ควอร์ท (ตรวจสอบคู่มือเพื่อหา SAE ของความหนืด, ประสิทธิภาพตาม API และปริมาณที่เครื่องยนต์ต้องใช้
* ไส้กรองใหม่ รถยนต์ส่วนใหญ่ใช้แบบหมุน ซึ่งมีหลายรูปร่างและหลายขนาด (ตรวจสอบคู่มือเพื่อหาชนิดและขนาดที่เหมาะสม)
* คีมปากนกแก้วที่มีขนาดเดียวกับของไส้กรอง
* อ่างรองน้ำมันเครื่อง อย่างน้อยควรจุได้ 6-8 ควอร์ท
* ผ้าขี้ริ้ว
* ที่ล้างมือหรือถุงมือยาง
* กรวย

ขั้นตอนที่ 1 – เลือกน้ำมัน
คู่ มือประจำรถควรระบุถึงเกรดของน้ำมันที่ควรใช้กับรถภายใต้เงื่อนไขปกติ และระยะทางของการขับขี่ที่ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง อย่างไรก็ตาม หากมีการใช้รถในเงื่อนไขต่างไปจากคู่มือ เช่น ใช้รถในอุณหภูมิสูงๆ, เดินทางระยะสั้นบ่อยๆ ขับๆ หยุดๆ เนื่องจากการจราจร หรือใช้รถลากจูงบ่อย ควรจะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อยขึ้น โดยเฉลี่ย คนใช้รถไม่ค่อยคำนึงถึงสิ่งต่างๆ เหล่านี้และปัญหาหลักๆ มักเกิดจากกรณีเหล่านี้อยู่บ่อยๆ นั่นเป็นเหตุให้ช่างเครื่องแนะนำให้ทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องในช่วงเวลาที่ สั้นกว่าที่กำหนดโดยผู้ผลิต
โดยทั่วไป เราควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 5,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 3 เดือน แล้วแต่ว่าเงื่อนไขไหนถึงก่อน สิ่งนี้จะช่วยทำให้มีการปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีและทำให้เครื่องยนต์มีอายุ ใช้งานนาน (ตรวจสอบคู่มือประจำรถสำหรับกรณีพิเศษและอย่าปล่อยให้การรับประกันสิ้นสุด ลง)

ขั้นตอนที่ 2 – เตรียมรถ
หมั่นสอบถามช่างสำหรับการป้องกันก่อนที่เครื่องยนต์จะมีปัญหา
อย่า ใช้แม่แรงยกรถ เพราะมันไม่ค่อยมั่นคง ให้ใช้ที่ยกรถจะปลอดภัยกว่า แม่แรงจะยกรถให้ลอยขึ้น จนเราสามารถที่จะเลื่อนตัวเข้าไปใต้ท้องรถได้ เมื่อนอนราบแล้ว ให้ขับรถขึ้นไปบนที่ยกรถ กระทั่งล้อหน้าลอยขึ้น ตั้งเบรคฉุกเฉินและให้กั้นล้อรถด้านหลังด้วยไม้กั้นเพื่อป้องกันรถไหล ใส่เกียร์หนึ่งไว้หากเป็นรถเกียร์ธรรมดา และตัว P ถ้าเป็นรถเกียร์อัตโนมัติ น้ำมันที่เย็นจะไหลออกมายาก ดังนั้น ควรอุ่นเครื่องรถไว้ประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้อยู่ในอุณหภูมิอย่างตอนที่ใช้ (อย่าติดเครื่องโดยไม่มีน้ำมันเครื่อง) จากนั้นให้ปิดเครื่องและเปิดกระโปรงรถเพื่อที่จะเปิดฝาน้ำมันโดยไม่ต้องสูบ น้ำมันขึ้นมา จะทำให้น้ำมันไหลลงมาด้านล่างได้อย่างง่ายดาย

ขั้นตอนที่ 3 – ถ่ายน้ำมันเก่า
ใส่ปลั๊กน้ำมันด้านล่างของรถ โดยควรจะอยู่ที่ด้านล่างของเครื่องยนต์ ควรแน่ใจว่าหมุนปลั๊กให้แน่น
วาง ถาดรองน้ำมันใต้ท่อทิ้งน้ำมัน ใช้คีมหมุนให้เปิดออกตามเข็มนาฬิกา ถึงตอนนี้ให้ระวัง เพราะน้ำมันอาจจะไหลลงมาอย่างรวดเร็วและค่อนข้างร้อน ระวังอย่าให้ฝาท่อหล่นลงไปในน้ำมัน แต่ไม่เป็นไรถ้าคุณพลาด

ขั้นตอนที่ 4 – ถอดไส้กรอง
ต่อ มา ให้เปิดที่กรองน้ำมัน ซึ่งอาจจะร้อนนิดหน่อย ด้วยการหมุนตามเข็มนาฬิกาด้วยคีม หยิบออกโดยระวังอย่าไปจับท่อที่ร้อน ที่กรองน้ำมันอาจจะมีน้ำมันและมีน้ำหนักมากซักหน่อย ดังนั้นให้วางลงค่อยๆ และไกลจากเครื่องยนต์ และเทน้ำมันที่ติดอยู่ลงในอ่างรองน้ำมัน

ขั้นตอนที่ 5 – เปลี่ยนไส้กรอง
ใช้ ผ้าเช็ดรอบๆ ขอบปากที่กรองที่อยู่ที่เครื่องยนต์ แล้วจึงใส่ที่กรองอันใหม่แล้วใช้นิ้วลูบน้ำมัน (เก่าหรือใหม่ก็ได้) ไปที่รอบๆ ขอบของที่กรองอันใหม่ โดยที่น้ำมันจะทำหน้าที่เป็นฟิล์มกันการรั่วซึม ขันที่กรองอย่างระมัดระวังโดยหมุนตามเข็มนาฬิกา อย่าให้แน่นจนเกินไป
ทำความสะอาดท่อน้ำมันและที่ปิด แล้วใส่กลับไปที่เดิม หมุนปลั๊กให้แน่นโดยใช้คีมช่วยแต่อย่าแน่นจนเกินไป

ขั้นตอนที่ 6 – เติมน้ำมันใหม่
ข้าง บนสุดของเครื่องยนต์ จะเห็นฝาที่เขียนว่า “น้ำมันเครื่อง” ให้เปิดฝานั้นออกและเริ่มเติมน้ำมันในปริมาณที่ต้องการ ตรวจสอบด้วยไม้วัดเพื่อให้แน่ใจว่าปริมาณถูกต้อง หลังจากนั้นปิดฝาและเช็คทำความสะอาดอีกครั้ง ไฟแสดงน้ำมันควรจะหายไปเมื่อเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานสักพัก แล้วปิดเครื่องและเช็คไม้วัดน้ำมันอีกที เพื่อตรวจสอบว่า น้ำมันมีปริมาณที่เหมาะสม ท้ายสุดตรวจสอบที่รูน้ำมันออก บริเวณด้านล่างของรถว่าไม่มีการรั่วซึม
ง่ายกว่าที่คิดใช่ไหมครับ อย่าลืมจดด้วยว่าทำการเปลี่ยนเมื่อเข็มไมล์อยู่ที่ระยะทางเท่าใดและเปลี่ยน เมื่อไหร่ในที่เก็บของหน้ารถ จะได้ง่ายในการตรวจสอบว่าครั้งหน้าควรเปลี่ยนอีกเมื่อไร และยังช่วยให้รถคุณมีราคาที่ดีขึ้นเมื่อคุณประกาศขาย หากมีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นประจำ

ขั้นตอนที่ 7 – การทิ้งน้ำมันเครื่องอย่างถูกวิธี
หาก คุณคิดว่าเสร็จขบวนการแล้ว มันก็เกือบนะแต่ยังก่อน สิ่งสุดท้ายที่ถือว่าสำคัญที่สุดในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง คือ การทิ้งน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วในที่ที่เหมาะสม เพราะน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วเป็นพิษอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อม การทิ้งน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วในภาชนะมิดชิดและสอบถามพนักงานเก็บขยะแถว บ้านคุณถึงการทิ้งที่เหมาะสม จริงๆ แล้วควรมีโรงขยะที่รับน้ำมันที่ใช้แล้วส่งต่อให้โรงงานทำการรีไซเคิล หากคุณไม่สามารถหาที่ทิ้งได้ควรจะมีการจัดการของรัฐเกี่ยวกับขยะจำพวกนี้
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมในการทำลายขยะ ติดต่อองค์กรภาครัฐเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าว





สอบถาม บริษัทประกันภัย เจ้าของผลิตภัณฑ์ หรือ ตัวแทน/นายหน้า ทั่วประเทศ



คอมเม้นท์ที่เพจ 💸 สินเชื่อ




up arrow