หุ้น bla (กรุงเทพประกันชีวิต) เคยขึ้นไปที่ 60 + ปรับลงเป็น 10+
หุ้น BLA (บมจ. กรุงเทพประกันชีวิต) เป็นอีกตัวอย่างของหุ้นในกลุ่มประกันภัย/ประกันชีวิตที่ราคาเคยปรับขึ้นไปสูงมากจากเคยขึ้นไปที่ 60+ ก่อนจะปรับตัวลงมาอยู่ในช่วง 10 กว่าบาท (ข้อมูลล่าสุดราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 17-18 บาท)

สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาหุ้น BLA ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดมาจนถึงระดับปัจจุบันในช่วงปี 2565-2566 และต่อเนื่องมา มีดังนี้:
- ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบัญชีใหม่ (TFRS 17)
นี่คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลกระทบต่อบริษัทประกันชีวิตโดยตรง
- การเตรียมพร้อมรับ TFRS 17: มาตรฐานบัญชีใหม่นี้มีผลบังคับใช้เพื่อทำให้งบการเงินของบริษัทประกันมีความโปร่งใสและเทียบเคียงได้มากขึ้น ซึ่งบังคับให้บริษัทต้องรับรู้รายได้และกำไรตามความเสี่ยงที่แท้จริงและระยะเวลาที่ให้บริการ
- ผลกระทบต่องบกำไร-ขาดทุน: การปรับใช้ TFRS 17 ทำให้รูปแบบการรับรู้กำไรของบริษัทประกันชีวิตเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยเฉพาะกำไรจากกรมธรรม์ใหม่ที่เคยรับรู้เกือบทั้งหมดทันที จะถูกทยอยรับรู้ตลอดอายุสัญญาแทน สิ่งนี้ทำให้กำไรที่รายงานตามงบการเงินดู “ลดลง” หรือ “ชะลอตัวลง” ในช่วงแรกของการเปลี่ยนผ่าน แม้ว่ากระแสเงินสดและฐานะทางการเงินที่แท้จริงอาจยังแข็งแกร่ง (ซึ่งสะท้อนจากอัตราส่วนเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (CAR) ของ BLA ที่ยังสูง)
- ความกังวลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและการเติบโตของเบี้ยประกัน
- เบี้ยประกันใหม่ที่ลดลง (New Business Value – NBV): แม้ว่าบริษัทจะมีความพยายามในการปรับตัว แต่การแข่งขันในตลาดประกันชีวิตที่สูงขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อาจทำให้ยอดขายเบี้ยประกันใหม่ และมูลค่าธุรกิจใหม่ที่สร้างได้ (NBV) เติบโตได้ช้าลง หรือต่ำกว่าความคาดหวังของตลาดในช่วงที่ราคาหุ้นเคยขึ้นไปสูง
- ผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on Investment – ROI): ในฐานะบริษัทประกันชีวิตที่มีเงินลงทุนขนาดใหญ่ ผลตอบแทนจากการลงทุนย่อมมีความผันผวนตามสภาวะตลาดการเงินโลกและอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิโดยรวม
- การขายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (Sentiment เชิงลบ)
- ในช่วงที่ผ่านมา เคยมีรายงานข่าวการขายหุ้น BLA ออกมาโดย บลจ.บัวหลวง (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผู้ถือหุ้นรายใหญ่) แม้จะเป็นเพียงการลดสัดส่วนการถือครอง แต่ก็สร้าง Sentiment เชิงลบ ในตลาด และเป็นแรงกดดันให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงในระยะสั้น
สรุป
การที่ราคาหุ้น BLA ร่วงลงจาก 60 กว่าบาท มาที่ 10 กว่าบาท เป็นผลมาจากการ สิ้นสุดของยุคกำไรสูงจากผลิตภัณฑ์บางประเภท และ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมประกันชีวิตจากการบังคับใช้มาตรฐานบัญชี TFRS 17 ซึ่งทำให้ตลาดต้องปรับลดการประเมินมูลค่า (Valuation) ของบริษัทประกันชีวิตใหม่ทั้งหมด โดยพิจารณาจากแนวโน้มกำไรที่ถูกทยอยรับรู้ในอนาคตแทนกำไรที่สูงโดดเด่นในอดีต
ราคาปัจจุบัน ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2568 (ตามข้อมูลที่ค้นพบ) อยู่ที่ประมาณ 17.60 บาท/หุ้น ซึ่งอยู่ในช่วงราคา 10 กว่าบาท

สอบถาม บริษัทประกันภัย เจ้าของผลิตภัณฑ์ หรือ ตัวแทน/นายหน้า ทั่วประเทศ
