INSURANCETHAI.NET
Fri 29/03/2024 5:18:20
Home » ความรู้รถยนต์ » วิธีเบรคที่ถูกต้อง\"you

วิธีเบรคที่ถูกต้อง

2013/05/31 2846👁️‍🗨️

การขับรถบนท้องถนนให้ปลอดภัย ไม่เกิดอุบัติเหตุทั้งจากตนเองและจากคนอื่น
ที่จะเข้ามาชนเรา จำเป็นต้องเรียนรู้เทคนิคในการขับรถ การบำรุงรักษารถ และเรียนรู้
สภาพแวดล้อมปัจจัยร่วมที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย เช่น สภาพเส้นทาง กฎ กติกา
มารยาทในการขับขี่รถ

brake_system
หนึ่งในเทคนิคของการขับขี่รถที่ปลอดภัยและสำคัญมากอย่างหนึ่ง คือ การรู้วิธี
เบรกและทำได้อย่างถูกต้องด้วย การเบรกพอจะแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ เบรกเพื่อ
ชะลอความเร็ว และเบรกเพื่อหยุดรถ ก่อนที่คุณจะเบรกทุกครั้งไม่ว่าจะเบรกแบบไหนก็
ตามจะต้องประเมินสถานการณ์ด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อจะได้สามารถกะน้ำหนัก
เบรกได้อย่างเหมาะสม
การเบรกเพื่อชะลอความเร็ว น้ำหนักในการเบรกต้องสัมพันธ์กับความเร็วของรถ
ยนต์คันอื่น ไม่ควรกดเบรกหนักจนความเร็วลดลงมากเกินไปเพราะจะสิ้นเปลืองเวลา
และน้ำมันเชื้อเพลิงในการเร่งความเร็ว แต่ก็ไม่ควรแตะเบรกเบาเกินไปจนขาดความ
ปลอดภัย
การเบรกเพื่อหยุดในสภาพปกติ คารแตะเบรกล่วงหน้าเพื่อใช้ไฟเบรกเตือนให้รถ
ยนต์คันหลังเตรียมตัวเบรก ไม่ควรขับเข้าไปใกล้คันหน้าและกดเบรกอย่างรุนแรง เพราะ
ล้ออาจล็อกจนเสียการทรงตัว และทำให้เกิดความสึกหรอในชุดเบรกสูง หรือรถยนต์คัน
หลังอาจเบรกไม่ทันจนชนท้าย
ส่วนการเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน ควรหยุดให้ใกล้รถยนต์คันหน้ามากที่สุด
เพื่อรถยนต์ที่ตามมาด้านหลังจะได้มีระยะเบรกมากขึ้น
สำหรับรถยนต์เกียร์ธรรมดาต้องเหยียบคลัตช์เมื่อรถยนต์เกือบหยุดแล้วเท่านั้น
เพราะการเยียบเบรกพร้อมกับการเหยียบคลัตช์นั้น เปรียบเสมือนการเบรกพร้อมกับ
ปลดเกียร์ว่าง เครื่องยนต์ที่ถูกปลดออกจากการขับเคลื่อนไม่สามารถหน่วงช่วยการ
เบรกได้ รถยนต์จะมีแรงเฉื่อยเพิ่มขึ้น เบรกทำงานหนักขึ้นและระยะทางการหยุดเพิ่มขึ้น
การเบรกในขณะที่ยังค้างอยู่ในเกียร์ขับเคลื่อน
เครื่องยนต์จะใช้รอบการหมุนหน่วงความเร็วของตัวรถยนต์ไว้ด้วย จึงควรเริ่ม
เหยียบคลัตช์เมื่อรถยนต์ใกล้หยุดสนิทเพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ดับ ส่วนเกียร์อัตโนมัติก็กด
เบรกอย่างเดียว ไม่ควรปลดเกียร์ว่างแล้วเบรก เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายในชุด
เกียร์
การลดเกียร์ลงต่ำเพื่อช่วยเบรกเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
เพราะทำให้รอบเครื่องยนต์สูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เกิด
ความสึกหรอมากกว่าปกติ หรือเกิดความเสียหายได้ ล้อขับเคลื่อนที่หมุนด้วยความเร็ว
เมื่อถูกหน่วงด้วยเครื่องยนต์ เพลาขับจะได้รับแรงบิดสูงอาจทำให้เพลาขับสึกหรอมาก
กว่าปกติ การใช้เกียร์ต่ำจะมีความจำเป็นในกรณีรถวิ่งเพื่อลงทางลาดชัน
การขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูง หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจำเป็นต้องใช้ระยะ
ทางในการเบรกเพิ่มขึ้น การใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด คือ ประมาณ 100
กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทาง 1 กิโลเมตร ใช้เวลา 36 วินาที ภายใน 1 วินาที จะแล่นไป
ได้ 28 เมตร เมื่อเปรียบเทียบกับสนามฟุตบอลมาตรฐาน ความยาวประมาณ 100 เมตร
จะแล่นผ่านภายในเวลา 3.6 วินาที

no-brakes
การขับด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง บนถนนแห้ง เมื่อผู้ขับเห็นอุปสรรค
ด้านหน้าและต้องการเบรก จะใช้เวลาตอบสนองตั้งแต่เริ่มมองเห็นจนเท้าแตะเบรก
ประมาณ 0.6 วินาที หรือคิดเป็นระยะทางก่อนกดเบรก 17 เมตร และระยะทางหลังกด
เบรก 85 เมตร รวมระยะทางที่ใช้หยุด 102 เมตร แต่ถ้าผิวถนนเปียกหรือผู้ขับมีการตอบ
สนองช้า ระยะทางที่ใช้หยุดก็จะเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น หากรักที่จะขับรถเร็วก็ต้องคำนึง
ถึงหลักเกณฑ์ในเรื่องของระยะทางกับระยะการเบรกไว้ด้วยจึงจะปลอดภัย





สอบถาม บริษัทประกันภัย เจ้าของผลิตภัณฑ์ หรือ ตัวแทน/นายหน้า ทั่วประเทศ



คอมเม้นท์ที่เพจ 💸 สินเชื่อ




up arrow