INSURANCETHAI.NET
Fri 26/04/2024 1:12:18
Home » ความรู้รถยนต์ » การเติมลมยางรถยนต์\"you

การเติมลมยางรถยนต์

2011/10/04 2694👁️‍🗨️

การเติมลม ให้กับยางรถยนต์ หรือ ยางรถอื่นๆ ต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
– เติมลมตามสเปคของรถที่กำหนด [ศึกษาได้จากคู่มือของรถนั้นๆ]
– เวลาเติม ลมยางรถยนต์ ควรเติมขณะที่ ยางรถยนต์ ไม่ร้อนเกินไป เพราะหากเติมในขณะยางรถยนต์ร้อน จะมีผลกับการขยายตัวของลม เมื่อเจอวัตถุหรือ เจอสภาพที่ร้อน ทำให้กะเกณฑ์ความพอดี ได้ยากขึ้นเนื่องจากเมื่อเติมเสร็จเเล้ว เมื่ออุณหภูมิล้อรถยนต์ต่ำลง ลมหรืออากาศในยางรถยนต์จะหดตัว
– หากต้องการวิ่งทางไกล นานๆ ไควรเพิ่มลมยางอีกประมาณ 3 – 5 ปอนด์/ตร.นิ้ว
– หมั่นเช็คลมยางรถยนต์ เป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

ความดันลมยาง สำหรับรถเก๋งและรถกระบะ
รถเก๋ง ความดันสูงสุด ไม่ควรเกิน 36 ปอนด์ / ตารางนิ้ว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของรถนั้นๆ ด้วย เช่น
รถเก๋งขนาดเล็ก ความดันลมยาง ประมาณ 25 – 30 ปอนด์ / ตารางนิ้ว
รถเก๋งขนาดกลางถึงใหญ่ ความดันลมยาง ประมาณ 30 – 35 ปอนด์ / ตารางนิ้ว
รถกระบะ ความดันลมยาง ไม่ควรเกิน 65 ปอนด์ / ตารางนิ้ว

ด้วยภารกิจของยางที่มากมายและสำคัญกว่าภาพลักษณ์ที่เห็น ทำให้ หลายๆคนไม่ค่อยจะให้ความสำคัญกับวัถตุกลมๆ นี้เท่าไหร่นัก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ยาง ต้องรับบทหนักทั้งสร้างแรงเสียดทานกับพื้น ถนน (หรือยึดเกาะถนน) ด้วยพื้นที่สัมผัสอันน้อยนิด ทั้งในขณะเร่งความเร็ว, เลี้ยวและที่สำคัญกับการเบรค ทนการกดดันจากน้ำหนัก (รถ, คนและสัมภาระ) ตลอดเวลา รวมไปถึงวัตถุแข็งๆ ที่เอาแน่เอานอนกับรูปทรงไม่ได้ ที่ล้วนแต่ทำร้ายหน้าสัมผัสและโครง สร้างของยางทั้งสิ้น ,วัตถุตัวดำๆ นี้มันสำคัญกับรถเราแค่ไหน ?

การเติมลมยางมากเกินไป
บริเวณของกึ่งกลางของหน้ายางจะสึกหรอได้ง่าย
การรับแรงและการยืดหยุ่นด้อยลง เมื่อมีการรับน้ำหนักหรือการกระแทก ก็อาจทำให้เกิดการระเบิดของยางได้ง่าย
การทรงตัวและการเกาะถนน ไม่ดีเท่าที่ควร

การเติมลมยางน้อยเกินไป
บริเวณไหล่ยาง จะสึกเร็วกว่าปกติ แก้มยางทำงานหนัก สึกหรอได้ง่าย
การหมุนหรือบังคับ พวงมาลัย ได้ยากขึ้น
การทรงตังของรถในขณะขับขี่ด้อยลง

Inflate- tires3

Inflate- tires3

นอกจากนี้หาก ดอกยาง สึกเป็นช่วงๆ คล้ายฟันเลื่อย สันนิฐานปัญหาอาจเกิดจากศูนย์ของล้อมีความผิดปกติ
แม้เราจะไม่ได้เติมเองแต่อย่างน้อยก็ควรบอก เด็กปั๊ม ให้เติมลมยางได้ตามมาตรฐานที่กำหนด ก็จะเป็นผลดีต่อ ล้อแม็ก ยาง และรวมไปถึงความปลอดภัยแก่ตัวเราด้วย

เมื่อแรงดันลมยางต่ำลง จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ อันเนื่องมาจากการที่พื้นที่สัมผัสของหน้ายางเพิ่มขึ้น ทำให้เครื่องยนต์ต้องออกแรง มากกว่าเดิม โครงสร้างยางถูกทารุณ เนื่องจากไม่มีแรงดันลมยางมาช่วยพยุงน้ำหนัก ทำให้แก้มยางต้องรับภาระหนักกว่าเดิม, หน้ายางสึกหรอไม่เท่ากัน, ประสิทธิภาพในการเร่ง, เลี้ยว, เบรคและอายุการใช้งานลดลง และยังเสี่ยงต่อ ยางระเบิดในขณะเดินทางเป็นระยะทางไกลๆ จากการที่อากาศเสียดสีกันอย่าง รุนแรง เพราะแก้มยางมันยืดหยุ่นตัวตลอดเวลานั่นเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเติมลมยางสูงกว่าปกติแล้วจะดี เพราะถ้าลมยางมากเกิน ก็จะไป ลดทอนความนุ่มนวล, หน้ายางสึกหรอไม่เท่ากัน และประสิทธิภาพในการเร่ง, เลี้ยวและเบรคก็ไม่เต็มร้อยเช่นกัน

เกจ์วัดแรงดันลมยาง ที่แม่นยำและเที่ยงตรง อาจจะต้องหายี่ห้อที่คุ้นเคยกันซักนิด ซึ่งก็มักจะ มากับค่าตัวที่ไม่น่าฟังนัก แต่ถ้ามองในระยะยาว ยังไงก็คุ้ม ส่วนประเภทที่ค่าตัวถูกมากๆ มักจะไม่ค่อยแม่นยำหรือทนทานซักเท่าไหร่ ส่วนจะเล่นแบบอนาล็อก หรือดิจิตอลก็แล้วแต่ความชอบและความสะดวกในการหาที่ซื้อ ประเภทที่ชอบพึ่งเกจ์วัดลมตามปั๊มลมในสถานีบริการน้ำมันนั้น คงจะหวังเรื่องความแม่นยำ ไม่ได้มาก เพราะวันๆ ต้องถูกใช้งานกับรถไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยคัน มันก็ เลยต้องมีบางทีที่จะคลาดเคลื่อนเป็นธรรมดา

ทำไมต้องวัดความดันลมยางในขณะที่ยางเย็นตัว
เพราะในขณะที่รถเคลื่อนตัว อากาศในยางจะเกิดการเสียดสีกัน จนทำให้แรงดันและอุณหภูมิเพิ่มขึ้น ซึ่งหากวิ่งมาเป็นระยะ ทางไกล ก็จะทำให้แรงดันมากเกินกว่าความเป็นจริง เพราะฉะนั้นถ้าต้องการค่าที่แน่นอน ก็จะต้องวัดในขณะที่ล้อยังไม่หมุนหรือหมุนน้อยที่สุด อาจจะได้ไม่ง่าย เพราะคงจะมีไม่กี่คนที่มีปั๊มลมเป็น ของตัวเอง ก็เลยต้องพึ่งที่เติมลมในปั๊มน้ำมันหรืออู่แทน ซึ่งกว่าจะไปถึง แรงดันในยางก็คงเพิ่มขึ้นไปหลายปอนด์/ตร.นิ้ว (หรือ PSI) แล้ว แต่ก็มีวิธีแก้ปัญหาดังกล่าว ค่อ เติมเพิ่มเผื่อไว้ก่อน และ เลือกเติมในตอนเช้า เนื่องจากอุณหภูมิของพื้นผิวถนนจะยังไม่สูงนัก
สมมติว่าต้องเติมที่ 30 ปอนด์/ตร.นิ้ว ก็จะอัดเพิ่มไปเป็น 34 ปอนด์/ตร.นิ้ว แล้วขับไปจอด ซึ่งยางจะเย็นตัวเต็มที่ (จอดอยู่กับที่ประมาณ 5 ชั่วโมง) ค่อยเอาเกจ์วัด ลมยางมา วัด เกินเท่าไหร่ก็ปล่อยออกให้ได้ 30 ปอนด์/ตร.นิ้ว

มีผู้ผลิตยางบางรายระบุว่า แรงดันลมยางที่ลดลงไป 30 % จะมีผลให้อายุการใช้ งานลดลงถึง 20% เลยทีเดียว

แรงดันลมยาง
ศึกษาตามคู่มือหรือเพลทระบุแรงดันของรถรุ่นนั้นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ประมาณ 28-32 ปอนด์/ตร.นิ้ว
อาจจะมากน้อยกว่าก็แล้วแต่รูปแบบของรถและลักษณะการใช้งาน และอย่าลืมเช็คแรงดันลมยาง อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง
จะคันละไม่กี่หมื่นไปจนหลายสิบล้าน แต่ก็มีเพียงยาง 4 เส้น เท่านั้นที่สร้างแรงเสียดทานให้ตัวรถยังอยู่ในการควบคุมและพาคุณถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย





สอบถาม บริษัทประกันภัย เจ้าของผลิตภัณฑ์ หรือ ตัวแทน/นายหน้า ทั่วประเทศ



คอมเม้นท์ที่เพจ 💸 สินเชื่อ




up arrow